วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

รายงานพิเศษ : การเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของฝ่ายนิติบัญญัติ

รายงานพิเศษ : การเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของฝ่ายนิติบัญญัติ:



เหลือเวลาอีกเพียง 2 ปี หรือในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ปัจจุบัน “อาเซียน” ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศและพัฒนาบุคลากรในด้านต่าง ๆ โดยอาเซียนได้กำหนดแบบแปลน หรือที่เรียกกันว่า “Blueprint ASEAN Community” (พิมพ์เขียวอาเซียน) เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการนำอาเซียนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ 1) ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASC) 2) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ๓) ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC) ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานต่าง ๆ ต้องเตรียมความพร้อมให้ครบทั้ง 3 เสาหลัก เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยวันนี้ไปที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ในส่วนของวุฒิสภา ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่า วุฒิสภาดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยมีความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผ่านรูปแบบของคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาคณะต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางเพิ่มศักยภาพให้คนไทย สามารถปรับตัว และแข่งขันกับนานาชาติได้อย่างมีศักดิ์ศรี อีกทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมอาเซียนให้มากที่สุด
ขณะที่การเตรียมการด้านกฎหมายถือว่ามีส่วนสำคัญ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า แต่ละประเทศในอาเซียนมีกฎหมายที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาว่าจะร่วมกันดำเนินการอย่างไรในด้านกฎหมาย เพื่อให้อาเซียนสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศขึ้น โดยวุฒิสภาช่วยเร่งรัดกรอบความร่วมมือ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาให้เร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือสร้างความสัมพันธ์ระดับภูมิภาคอาเซียนด้วยกันอยู่เสมอ โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำในฝ่ายนิติบัญญัติ มีการตั้งกลุ่มมิตรภาพร่วมกัน เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน



ผู้สื่อข่าว : วาสนา ตาระเกตุ(เงินทูล) / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว : นายนิคม ไวยรัชพานิช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น