วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัด 2 พบกับ สิงคโปร์ ในเย็นวันนี้ ที่สนามศุภชลาศัย

ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัด 2 พบกับ สิงคโปร์ ในเย็นวันนี้ ที่สนามศุภชลาศัย:



ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย เตรียมลงสนามฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัด 2 พบกับ สิงคโปร์ ในเย็นวันนี้ ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งนัดแรก สิงคโปร์ ชนะไปก่อน 3-1 ประตู
ด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ ได้เน้นให้ลูกทีมเล่นระบบ 4-4-2 โดย 11 คนแรก ที่จะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ เซนเตอร์ ชลทิตย์ จันทคาม, ภานุพงศ์ วงศ์ษา แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา กองกลาง อดุลย์ หละโสะ, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, จักรพันธ์ พรใส กลับมาแทนที่ของ อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่บาดเจ็บลงสนามไม่ได้ ส่วนกองหน้า กีรติ เขียวสมบัติ จับคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา
ส่วนทางฝั่งสิงคโปร์ได้เน้นการฝึกซ้อมในการตั้งรับ เพื่อบีบพื้นที่ให้ไทยเปิดบอลจากบริเวณวงกลมครึ่งสนามออกด้านข้างไม่ให้เจาะตรงกลาง โดยวางผู้เล่นแนวรับเอาไว้ถึง 6 คนด้วยกัน และเมื่อตัดบอลได้จะโต้กลับโดยมีทาง ไคลรุล อัมรี่ เป็นหน้าเป้าตัวเดียวคอยฉีกบอลไปตรงพื้นที่ว่างริมเส้น นอกจากนี้ยังได้มีการซ้อมเน้นในเรื่องของจังหวะการเล่นลูกเซตพีซในจุดต่างๆ ตั้งแต่ครึ่งสนามจนกระทั่งไปถึงระยะ 20-25 หลา อีกด้วย สำหรับเกมคู่นี้ จะแข่งขันที่สนามศุภชลาศัย ในวันนี้ เวลา 19.00 น.
ผลฟุตบอล กัลโช เซเรีย อาอิตาลี 2012-13 เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นนัดสุดท้ายก่อนพักครึ่งฤดูกาล มี 2 คู่ กายารี ที่เหลือผู้เล่น 10 คน แพ้ ยูเวนตุส 1-3 ประตู ทำให้ ยูเวนตุสคว้าแชมป์ฤดูหนาว ส่วนอีกคู่ เปสคาร่า เฉือนชนะ คาตาเนีย 2-1 ประตู
ขณะที่ ฟุตบอลลาลีก้า สเปน บาเลนเซีย เปิดบ้านชนะ เคตาเฟ่ 4-2 ประตู เก็บชัยชนะส่งท้ายปี 2012 ได้สำเร็จ มี 24 คะแนนเท่ากับ เคตาเฟ่ แต่ประตูได้เสียดีกว่ารั้งอยู่ที่ 9 ของตารางคะแนน ส่วนอีกคู่ แอตเลติโก้ มาดริด เฉือนชนะ เซลต้าบีโก้ 1-0
สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า มีมติลงโทษแบน มาลาก้า สโมสรฟุตบอลจาก สเปน ห้ามลงแข่งขันในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรป เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ฤดูกาล และปรับเงินอีก 3 แสนยูโร หรือประมาณ 12 ล้านบาท โทษฐานค้างชำระหนี้สโมสรอื่น ,ค่าแรงเจ้าหน้าที่ของตัวเอง และภาษีของทางการ สเปน โดยบทลงโทษดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อสโมสรซึ่งมีนายทุน กาตาร์ เป็นเจ้าของ ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการของยูฟ่า ตลอด 4 ฤดูกาลข้างหน้า และถ้า มาลาก้า ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ยูฟ่า จะลงโทษแบนเพิ่มอีก 1 ฤดูกาลทันที โดยไม่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลนี้ที่ มาลาก้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเจอกับ ปอร์โต้
สำหรับการลงโทษในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเข้มงวดของ ยูฟ่า ที่เตรียมนำกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ หรือมาตรการควบคุมรายจ่าย มาใช้ในวงการฟุตบอลยุโรป
ขณะที่ บิเซนเต้ กาซาโด้ ผู้อำนวยการทั่วไป มาลาก้า ออกมาประกาศว่าเตรียมยื่นฟ้องร้องสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือ ซีเอเอส โดยมีเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2556 และเตรียมข้อโต้แย้งทุกอย่างที่สามารถลบล้างการตัดสินของยูฟ่าได้
นิโกล่าส์ อเนลก้า อดีตศูนย์หน้าของเชลซี ที่ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว เมื่อ 1 ปีก่อน แต่ล่าสุดสื่อใน จีนรายงานว่าตัวแทนของอดีตดาวยิงทีมชาติ ฝรั่งเศส กำลังเจรจายกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด เนื่องจากทีมดังใน ไชน่าซุปเปอร์ลีก ค้างจ่ายค่าเหนื่อยที่มีรายงานว่า อเนลก้า รับเงินมหาศาล 3 แสนเหรียญสหรัฐ ต่อสัปดาห์
ส่วน แฮรี่ เร้ดแนปป์ ผู้จัดการทีม ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ที่เพิ่งพาทีมคว้าชัยนัดแรกในฤดูกาลนี้ ยืนยันว่าสนใจดึงตัว อเนลก้า มาเสริมทัพช่วยทีมหนีตกชั้น แต่ค่าตัวและค่าเหนื่อยต้องสมเหตุสมผล ซึ่งทางด้าน โทนี่ เฟอนานเดซ เจ้าของสโมสร กำลังเจรากับทางตัวแทนของผู้เล่นวัย 33 ปี
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก คืนนี้ คู่ที่น่าสนใจ ระหว่าง “แชมป์เก่า” และรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้อนรับ เร้ดดิ้ง ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ต้องกระตุ้นลูกทีมรีบคืนฟอร์ม หลังจากคว้าชัยแค่ 2 เสมอ 2 และแพ้ 1 จนถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉีกหนีเป็น 6 คะแนน เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน ซามีร์ นาสรี่ กองกลางบาดเจ็บขาหนีบ อาจต้องพักถึงสิ้นปี รวมถึง แว็งซ็อง กอมปานี กองหลังที่เจ็บบริเวณเดียวกัน ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ป่วยเป็นไวรัส และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ บาดเจ็บหัวเข่า ลงไม่ได้เช่นกัน แต่มีข่าวดี เจมส์ มิลเนอร์ กับ แกเร็ธ แบรี่ กลับมาฟิตทันพอดี
ทางฝั่ง เร้ดดิ้ง ฟอร์มย่ำแย่ในลีก แพ้มา 6 นัดติดต่อกัน ไม่เพียงเท่านั้น หัวหน้าผู้ฝึกสอน ไบรอัน แม็คเดอม็อต ต้องแก้ไขเกมป้องกันโดยด่วน หลังจากโดนยิงไปมากสุดในลีก 36 ประตู รวมถึงฟอร์มนอกบ้านที่เก็บได้เพียงแค่ 2 จาก 27 คะแนน ทั้งสองทีมเผชิญหน้ากันล่าสุดในศึก เอฟเอ คัพ 2011 แมนซิตี้เฉือนชนะ 1-0
อีกคู่ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน ท็อทแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ทีมอันดับ 4 เจอกับ สโต๊ค ซิตี้ ทีมอันดับ 9 / สปอร์ส ฟอร์มกำลังมั่นใจ ชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด และผู้เล่นที่แข็งแกร่ง แกเร็ธ เบล กับ ไมเคิ่ล ดอว์สัน สองแกนหลักกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม ส่วน เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ต้องรอเช็กความฟิต ด้าน สก็อต พาร์เกอร์ กับ เบอนัว อัสซู เอก็อตโต้ ที่เจ็บไปนานมีลุ้นคืนสังเวียน
ทางด้าน สโต๊ค ผลงานนอกบ้านไม่ค่อยดี ชนะนัดเดียวจาก 9 เกม สภาพทีมเกมเยือนกรุง ลอนดอน ชาลี อดัม ที่เพิ่งสูญเสียบิดาได้รับอนุญาติให้พัก ขณะที่ ไรอัน ช็อตตัน พ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีม ทั้งสองทีมเจอกัน 8 นัดใน พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส ชนะ 4 สโต๊ค ชนะ 3 และเสมอ 1
โปรแกรม พรีมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555
19.45 วีแกน พบ อาร์เซน่อล

22.00 แมนฯ ซิตี้ พบ เร้ดดิ้ง

22.00 นิวคาสเซิล พบ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ค

22.00 เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ซันเดอร์แลนด์

22.00 ท็อทแน่ม ฮอตสเปอร์ส พบ สโต๊ค ซิตี้

22.00 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน พบ นอริช ซิตี้

22.00 เวสต์แฮม พบ เอฟเวอร์ตัน

00.30 ลิเวอร์พูล พบ ฟูแล่ม


นายสมบัติ คุรุพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2555 โดยในงานมีบุคคลสำคัญในวงการกีฬา และนักกีฬาชื่อดังร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
โดยรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น เป็นของ ร้อยตรีแก้ว พงษ์ประยูร เจ้าของเหรียญเงินมวยสากลสมัครกีฬาโอลิมปิกลอนดอนเกมส์ ส่วนนักกีฬาสมัครเล่นหญิงดีเด่น เป็นของ นางสาวพิมศิริ ศิริแก้ว เหรียญเงินยกน้ำหนักกีฬาโอลิมปิกลอนดอนเกมส์
รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ได้แก่ นายธีรศิลป์ แดงดา นักฟุตบอลทีมชาติไทย และนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น ได้แก่ นายมนัส เอี่ยมศิริ หรือซุปเปอร์เล็ก ว.สังข์ประไพ
นักกีฬาพิการชายดีเด่น นายพัทธยา เทศทอง เหรียญทองบอคเซีย กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ และนักกีฬาพิการหญิงดีเด่น นางสาวสายสุนีย์ จ๊ะนะ เหรียญทองวีลแชร์ฟันดาบพาราลิมปิกเกมส์
ส่วนสมาคมวอลเล่ย์บอลคว้าไปทั้งรางวัลสมาคมกีฬาดีเด่น, รางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น จากทีมวอลเลย์บอลทีมหญิง และรางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น ได้แก่ นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร
และในปีนี้มีการเพิ่มรางวัลพิเศษ 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลเกียรติคุณผู้ฝึกสอนต่างประเทศที่มีผลงานดีเด่น ได้แก่ นาย เช ชอง ซุค ผู้ฝึกสอนเทควันโด และรางวัลเชิดชูเกียรติสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย

ผู้สื่อข่าว : โสพิศ ทุยเวียง / สวท. โสพิศ ทุยเวียง / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

ทีมชาติไทย หากต้องการคว้าแชมป์ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ต้องชนะ สิงคโปร์ ด้วยสกอร์ 2-0 ประตูขึ้นไป

ทีมชาติไทย หากต้องการคว้าแชมป์ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ต้องชนะ สิงคโปร์ ด้วยสกอร์ 2-0 ประตูขึ้นไป:



การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามรอบชิงชนะเลิศ นัด 2 พบกับ สิงคโปร์ ในเย็นวันนี้ ที่สนามศุภชลาศัย เริ่มเวลา 19.00 น. ซึ่งนัดแรก ไทย แพ้ไปก่อน 1-3 และหากไทยต้องการคว้าแชมป์ต้องชนะด้วยสกอร์ 2-0 ขึ้นไป ขณะที่ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ได้มีการเพิ่มเงินรางวัลแชมป์เป็น 2 เท่า จากเดิมทีมแชมป์ จะได้รับ 3 ล้านบาท แต่ปีนี้จะได้รับ 6 ล้านบาท ส่วนรองแชมป์ได้รับ 2 ล้าน 2 แสน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลทรงคุณค่าอีก 3 แขนงประกอบด้วย ทีมแฟร์เพลย์, ผู้เล่นยอดเยี่ยม และ ผู้ยิงประตูสูงสุด หรือ ดาวซัลโว

ผู้สื่อข่าว : โสพิศ ทุยเวียง / สวท. โสพิศ ทุยเวียง / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

รายงานพิเศษ การประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ

รายงานพิเศษ การประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ:

วีดีโอประกอบ

ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ประเทศไทยสามารถผลิตข้าวได้หลายชนิดหลายชั้นคุณภาพ และเป็นแหล่งพันธุกรรมข้าวที่สำคัญ ข้าวไทยเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นข้าวคุณภาพดี ส่งผลให้การส่งออกข้าวไทย เป็นที่ยอมรับในความน่าเชื่อถือในด้านคุณภาพแก่ประเทศผู้ซื้อ ส่งผลให้ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันมาอย่างยาวนาน
แต่การผลิตข้าวไทยถึงเวลาต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เนื่องจากการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง ทั้งจากน้ำท่วมและภัยแล้ง ดังกรณีของอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 มีพื้นที่นาข้าวเสียหายรวมกันมากถึง10 ล้านไร่ ผลผลิตข้าวเสียหายรวมกันกว่า 2.5 ล้านตันข้าวเปลือก มีชาวนาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้การที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายในปี 2558 ส่งผลให้ประเทศอาเซียนกลายเป็นตลาดเดียวกัน การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เและแรงงานเป็นไปอย่างเสรี โดยไม่มีภาษีการนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศสมาชิก ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นได้ส่งผลต่ออนาคตและทิศทางของข้าวไทย
ในการประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ในหัวข้อมิติใหม่วิจัยข้าวไทย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปิดตลาดเสรีอาเซียน ได้มุ่งเน้นให้ประเทศไทยต้องเร่งรัดปรับตัวอย่างก้าวกระโดดด้วยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการสร้างความเป็นผู้นำของประเทศไทยในเวทีประชาคมอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านตลาดข้าวในภูมิภาค
ทั้งนี้ การพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวไทย มีการแบ่งโครงการวิจัยข้าวออกเป็นด้านๆ ทั้งด้านปรับปรุงพันธุ์กรรม ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ด้านเครื่องจักรกลการเกษตร ด้านแปรรูป ด้านจีโนมิกส์ ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ด้านโภชนาการ นับเป็นความก้าวหน้าทางการวิจัยด้านข้าวของนักวิทยาศาสตร์ไทย
ทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีบทบาทสำคัญต่อการปรับตัวของภาคการเกษตรไทย และได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อประโยชน์ต่อผู้ปลูกและผู้บริโภคข้าวทั้งโลกต่อไป


ผู้สื่อข่าว : เกศวรรณ ธนวัฒน์


หน่วยงาน : สำนักข่าว


ที่มาของข่าว :

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เลย –เตรียมความพร้อม หน่วยงานทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน

เลย –เตรียมความพร้อม หน่วยงานทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน:


ภาพประกอบ
ที่ห้องประชุม โรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในการเปิดการประชุมเสวนาหัวข้อ “การขับเคลื่อนการศึกษาขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศและการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” โดยมีนายสมเจษฏ์ ศรีสมจักร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 19 (สพม.เขต 19) และผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียนในสังกัด สพม.19 ผู้บริหารจากอาชีวศึกษาเลย กศน.จังหวัดเลย อบจ.เลย เทศบาลเมืองเลย เทศบาลเมืองวังสะพุง เข้าร่วมกว่า 200 คน

นายสมเจษฏ์ ศรีสมจักร์ ผอ.สพม.เขต 19 เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย มีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของหน่วยงานทางการศึกษาในสังกัดจังหวัดเลย เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษา ให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้ทุกคน หรือเลือกเรียนสายวิชาชีพได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นการเตรียมคนสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้จัดให้มีการประชุมเสวนาในครั้งนี้ขึ้น

วัตถุประสงค์เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การจัดการศึกษาที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศ จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก สู่โรงเรียนมัธยมศึกษาทุกสังกัดของจังหวัดเลย เป็นการเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยงานทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษาของจังหวัดเลย ก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีเอกภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมสัมนาและผู้ทรงคุณวุฒิ จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ติดต่อกัน 10 ปี จนได้รับโล่ทองคำพระราชทาน และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล การบริหารคุณภาพ ISO 9002 จาก

( Under UKAS and SAS ) “ด้านการบริหารจัดการด้วยระบบงานที่มีคุณภาพและเข้มแข็ง”


ผู้สื่อข่าว : เลย (สวท.) บุญถม มาตย์แสง เลย (สวท.) บุญถม มาตย์แสง


หน่วยงาน : สำนักข่าว


ที่มาของข่าว : นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย

ผวจ.ศรีสะเกษ นำ ผู้ประกอบการ กว่า 200 คน ติวเข้ม เตรียมความพร้อม เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558

ผวจ.ศรีสะเกษ นำ ผู้ประกอบการ กว่า 200 คน ติวเข้ม เตรียมความพร้อม เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558:


ภาพประกอบ
นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า ที่ห้องทับทิมทอง ชั้น 2 โรงแรมพรหมพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการเปิดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร SME Road map เปิดแนวรุกบุก AEC ภายใต้โครงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการเพื่อเข้าสู่ AEC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้กับผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน โดยมีนายคมสันต์ ครองยุติ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 นำ ผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน ประมาณ 200 คน เข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในปี 2558 อาเซียนตั้งเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียว และจะมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เสรีมากขึ้น ซึ่งในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียน มีผลผูกพันให้สมาชิกต้อง เปิดการค้าเสรี เสรีการค้าบริการ การลงทุน และการดำเนินงานตามความร่วมมือรายอุตสาหกรรมอื่นๆอีกด้วย

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชนต้องเตรียมพร้อม ปรับตัว และยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน นายคมสันต์ ครองยุติ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม ภายใต้การฝึกอบรมในวันนี้ จะมีการบรรยาย ในหัวข้อ เจาะลึก AEC ที่ SME ไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดย ดร.จักรกฤษณ์ ดวงพัสตรา ผู้อำนวยการหลักสูตรธุรกิจบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการบรรยายและจัดทำ Workshop ในหัวข้อ แผนกลยุทธ์การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการสู่ AEC โดย ดร.ธรรมวิมล สุขเสริม และทีมงานวิทยากร จากคณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งตนเชื่อว่า ผู้ประกอบการ ที่เข้าอบรม ในวันนี้ จะได้ความรู้ จากการฝึกอบรม ไปใช้ประโยชน์ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ได้อย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าว : จิรภัทร หมายสุข


หน่วยงาน : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ


ที่มาของข่าว : นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

คณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประชุมเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเตรียมแลกเปลี่ยนเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนกับเมืองต่างๆเชื่อมสัมพันธ์กลุ่มอาเซียน

คณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประชุมเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเตรียมแลกเปลี่ยนเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนกับเมืองต่างๆเชื่อมสัมพันธ์กลุ่มอาเซียน:



คณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประชุมเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเตรียมแลกเปลี่ยนเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนกับเมืองต่างๆเชื่อมสัมพันธ์กลุ่มอาเซียน
นายประเสริฐ ทองนุ่น ส.ก.เขตบางกะปิ ในฐานะคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมศึกษาแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานคร รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร เป็นจุดยุทธศาสตร์ของประเทศ จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้เกิดความพร้อมในทุกด้าน รวมทั้งต้องฝึกพัฒนาวิชาชีพให้สอดรับกับความต้องการแรงงานของประเทศในกลุ่มอาเซียน และพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน พร้อมเพิ่มหลักสูตรด้านภาษาอังกฤษให้นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สามารถพูดและสื่อสารได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนในช่วงปิดเทอม เน้นนโยบายด้านกีฬาและวัฒนธรรมของไทย โดยใช้นโยบายโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้องของ กทม.เชื่อมความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์จำเป็นเร่งด่วน และควรจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอาเซียน โดยเชิญเยาวชนในประเทศต่างๆ เข้าร่วม ซึ่งจะช่วยให้เยาวชนได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม พิจารณาผลักดันวิทยาลัยชุมชนให้เป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประชาชนในพื้นที่ โดยเสริมเนื้อหาและสอดแทรกความรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาเซียน และเน้นเรียนรู้ด้านภาษาควบคู่ไปด้วย

ผู้สื่อข่าว : พนิตนาฏ ขวัญแสนสุข / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ

AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ:
AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ
เดือนเด่น นิคมบริรักษ์

วีรวัลย์ ไพบูลย์จิตต์อารี

การเปิดเสรีภาคการบริการ (ASEAN Framework Agreement on Services: AFAS) อันเป็นเสาหลักของแผนการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจของอาเซียน ตาม  AEC Blueprint  ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 กระนั้นก็ดี วิธีการเจรจาแบบ “Request/Offer” ที่เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ เสนอการเปิดเสรีรายบริการที่ตัวเองมีความพร้อม และเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ เปิดเสรีในรายการตนต้องการนั้น กลับไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งนี้เพราะ ในทางปฏิบัติ ประเทศกำลังพัฒนามักไม่ต้องการเปิดเสรีในภาคบริการ ไม่ว่าจะสาขาใด
ด้วยเหตุนี้ การเจรจาเปิดเสรีภาคบริการของอาเซียน จึงประสบความล้มเหลวตลอดมา เนื่องจากประเทศสมาชิกมิได้ให้ข้อผูกมัดระหว่างกันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของการเจรจารูปแบบดังกล่าว ในปี พ.ศ.2552 อาเซียนจึงได้กำหนดเป้าหมายและเงื่อนเวลาของการเปิดเสรีภาคบริการ ไว้ใน AEC Blueprint ที่ระบุให้ประเทศสมาชิกต้องเจรจาและยื่นข้อผูกพันต่อกันทุก 2 ปี รวมทั้งหมด 4 ครั้ง เพื่อบรรลุเป้าหมายในปี พ.ศ.2558
อย่างไรก็ดี AEC Blueprint ยังเป็นเพียงความตกลงที่ไม่ได้มีผลบังคับตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน กรอบการเปิดเสรีภาคบริการก็ยังมีข้อจำกัดด้านการดำเนินงาน อาทิ การขาดความร่วมมือของประเทศสมาชิกในเรื่องการจัดทำแผนเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานและลดข้อจำกัดภายในประเทศ ที่เป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างนักธุรกิจต่างชาติและนักธุรกิจท้องถิ่น ฉะนั้น จึงดูเหมือน การบรรลุเป้าหมายตาม AEC Blueprint ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นเพียงมายาคติเท่านั้น
จากการติดตามความคืบหน้าการเจรจาด้านการบริการ นับตั้งแต่ AEC Blueprint ถือกำเนิดขึ้นพบว่า มีการสรุปผลและจัดทำข้อผูกพันในการเปิดเสรีเพียงครั้งเดียว คือ ข้อผูกพันในการเปิดเสรีภาคบริการชุดที่ 7 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2552 นอกจากนี้ ข้อผูกพันดังกล่าวก็ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน AEC Blueprint โดยเฉพาะส่วนของการอนุญาตให้นักลงทุนอาเซียนถือหุ้นในธุรกิจบริการในสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยสามารถถือหุ้นได้สูงถึงร้อยละ 70
ขณะเดียวกัน การจัดทำข้อตกลงชุดที่ 8 ที่มีความล่าช้ากว่ากำหนดนั้น ยิ่งห่างไกลจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ที่จะไม่เปิดเสรีภาคบริการอย่างชัดเจน เนื่องจากประเทศสมาชิกส่วนมากยังมีนโยบายคุ้มครองผู้ประกอบการในประเทศเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากแนวนโยบายภาคอุตสาหกรรมที่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้อย่างเสรี
กระนั้น สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของโลก ตลาดขนาดใหญ่ดึงดูดบรรษัทข้ามชาติให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี ทว่าระดับการกระจายตัวของเงินลงทุนกลับแตกต่างกันมาก โดยสองในสามของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศระหว่างประเทศอาเซียนกันเอง มาจากสิงคโปร์ โดยบรรษัทข้ามชาติที่มีรายได้สูงสุด 20 อันดับในประเทศไทย 5 บรรษัท มีการถือหุ้นผ่านสำนักงานภูมิภาคที่สิงคโปร์
ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโน้มจะกระจุกตัวมากขึ้น หากเปิดโอกาสให้นักลงทุนอาเซียนมาถือหุ้นในธุรกิจบริการของประเทศสมาชิกอื่นๆ มากกว่านักลงทุนทั่วไป เนื่องจากนักลงทุนนอกภูมิภาคจะสามารถใช้สิงคโปร์เป็นช่องทางในการลงทุนในประเทศสมาชิกอื่นๆ
สำหรับไทย นโยบายที่เน้นดึงดูดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ไม่สอดคล้องกับปริมาณการลงทุนจริงในอาเซียนที่มุ่งหน้าเข้าสู่ภาคบริการมากขึ้นกว่าร้อยละ 60 ทำให้ภาคบริการของไทยขาดเงินลงทุนที่จำเป็นในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อตักตวงผลประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการบริการในอาเซียน อีกทั้ง ยังทำให้เกิดช่องว่างระหว่างประสิทธิภาพของแรงงานภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอย่างมีนัยยะสำคัญ ผลกระทบดังกล่าว ทำให้ไทยมีการลงทุนด้านการบริการในประเทศเพื่อนบ้านน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพในการแข่งขันภาคบริการใกล้เคียงกันอย่างมาเลเซีย
ปัจจัยหลักที่ถ่วงการพัฒนาภาคบริการของไทยก็คือ  นโยบายกีดกันการลงทุนจากต่างประเทศภาคบริการ และกฎระเบียบภายในประเทศที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันในตลาดบริการ ทำให้มีลักษณะผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด ฉะนั้น เพื่อปฏิรูปภาคบริการของไทยให้สอดรับกับการเปิดเสรีภาคบริการของอาเซียน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องทบทวนนโยบายและกฎระเบียบดังกล่าว โดยเฉพาะในสาขาบริการที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย ทั้งบริการการเงิน โทรคมนาคม และพลังงาน
ทั้งนี้ ธุรกิจบริการที่รัฐบาลควรพิจารณาเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างเร่งด่วน คือ ธุรกิจบริการที่เป็นบริการที่สนับสนุนภาคธุรกิจ และเป็นบริการที่ผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีหลัง ที่มักเกี่ยวข้องกับบริการประเภทโครงข่าย เช่น บริการโครงข่ายโทรคมนาคม โครงข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ ซึ่งหากมีการแข่งขันน้อย ก็ยิ่งทำให้ภาคบริการของไทยด้อยคุณภาพ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้บริการก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงเกินควร
ตัวอย่างสำคัญคือ ธุรกิจโทรคมนาคม ภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม จนทำให้ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของไทยเหลือเพียง 3 ราย ขณะเดียวกัน การรักษาประกาศเรื่องการครอบงำกิจการของคนต่างด้าว ซึ่งออกโดย คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ให้นิยามของคนต่างด้าวที่กว้างและคลุมเครือ เอาไว้ ก็ตอกย้ำความพยายามจะกีดกันการแข่งขันจากต่างชาติ เพื่อรักษาอำนาจตลาดของผู้ประกอบการไทย
หรืออย่างกรณีธุรกิจธนาคาร ที่แม้จะมีผู้ประกอบการหลายราย ทว่าโครงสร้างตลาดยังมีลักษณะกระจุกตัว โดยธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 3 แห่ง ยังครองส่วนแบ่งตลาดบริการกว่าร้อยละ 60 อันเป็นผลมาจาก นโยบายจำกัดสาขาธนาคารต่างชาติ ทำให้ธนาคารต่างชาติไม่สามารถแข่งขันในบริการสำหรับลูกค้ารายย่อย (retail banking) ได้ อีกทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังกำหนดมาตรฐานการกำกับดูแลค่าธรรมเนียมต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์อย่างเข้มงวด ทำให้ ตลาดการเงินไม่มีการแข่งขันด้านราคาเท่าที่ควร
ขณะเดียวกัน ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งมีลักษณะผูกขาดอย่างสุดขั้วนั้น การเปิดเสรีให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุน ไม่อาจสลายการผูกขาดได้ หากกฎกติกาที่มีอยู่ไม่เอื้อให้ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเช่าใช้โครงข่ายพื้นฐานด้านพลังงาน อย่างโครงข่ายระบบท่อก๊าช ที่เป็นของ บมจ. ปตท. และโครงข่ายสายส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูง ที่เป็นของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
โดยสรุป ภาคบริการเป็นแหล่งจ้างงานสำคัญของไทย ที่จะกลายเป็นหัวจักรของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต กระนั้น ธุรกิจภาคบริการกลับมีผลิตภาพแรงงานโดยรวมต่ำ เพราะขาดการสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันโดยภาครัฐ ด้วยเหตุนี้ การยกระดับประสิทธิภาพของภาคบริการ ด้วยการเปิดรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รวมถึงการปฏิรูปกฎระเบียบที่มีอยู่เดิม จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น ทั้งยังจะช่วยยกระดับรายได้ของแรงงานเกือบ 20 ล้านคนที่อยู่ในภาคบริการอีกด้วย
แม้การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคบริการ ของอาเซียน จะยังดูห่างไกลความเป็นจริง ทว่าการหลอมรวมความร่วมมือระหว่างกันเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไทยยังคงปิดกั้นการลงทุนจากต่างชาติ ด้วยเงื่อนไขและข้อจำกัดดังที่กล่าวมา ก็ย่อมจะเสียโอกาสตักตวงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และพัฒนาขีดความสามารถของภาคบริการให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต
*หมายเหตุ

บทความข้างต้นสรุปย่อมาจากบทความชื่อเดียวกัน นำเสนอใน งานสัมมนาวิชาการประจำปี 2555 “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: มายาคติ ความเป็นจริง โอกาสและความท้าทาย” (ASEAN Economic Community: Myths, Reality, Potentials and Challenges) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

ASEAN Beyond 2015 พลังผู้หญิง พลังอาเซียน

ASEAN Beyond 2015 พลังผู้หญิง พลังอาเซียน:
ASEAN Beyond 2015 พลังผู้หญิง พลังอาเซียน

AEC กับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และช่องว่างทางรายได้

AEC กับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และช่องว่างทางรายได้:
AEC กับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

และช่องว่างทางรายได้
สมชัย จิตสุชน
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจตามกรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แม้จะไม่มีเนื้อหาที่กล่าวถึงประเด็นด้านสังคมโดยตรง ทว่าก็ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมในแง่มุมต่างๆ อย่างไม่ต้องสงสัย การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ในฐานะส่วนหนึ่งของโลกาภิวัตน์ ตอกย้ำให้เห็นบทบาทของการขยายตัวทางการค้า การลงทุน และการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต ฯลฯ ขณะเดียวกัน ก็ย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงผลกระทบทางสังคม อาทิ ปัญหาสิ่งแวดล้อม แรงงานเด็ก ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ฯลฯ ที่จะเกิดขึ้นตามมา
ในเวลาที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศมีแนวโน้มลดลง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งกลุ่มประเทศที่ร่ำรวยและยากจน กลับเพิ่มสูงสุดอย่างน่าประหลาดใจ ปรากฏการณ์ข้างต้น มักถูกโจมตีว่าเป็นผลด้านลบประการหนึ่งของโลกาภิวัตน์ และหากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งกระบวนการดังกล่าว ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องกลับมาทบทวนว่า อาเซียนจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ การวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมของ AEC โดยใช้ผลต่อรายได้ประชาชาติ มาเป็นแนวทางวิเคราะห์เชื่อมโยงถึงผลการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตามสมการแบบ Panel Regression พบว่า ยิ่งมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมาก ก็ยิ่งส่งผลดีต่อสังคม ทั้งในแง่ความยากจน การกระจายรายได้ สุขภาพของประชาชน และการศึกษา ยกเว้นก็เพียงด้านสิ่งแวดล้อม ที่การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะนำมาซึ่งปริมาณการใช้ก๊าซคอร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นตามมา
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ในมิติของการกระจายรายได้ภายในประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศ CLMV กลับมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ประเทศอื่นๆ แม้ความเหลื่อมล้ำจะลดน้อยลง แต่ก็ลดลงในระดับที่ไม่มากนัก จนอาจกล่าวได้ว่า อาเซียนยังคงต้องเผชิญหน้ากับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการกระจายรายได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
อีกทางหนึ่ง แม้ทุกประเทศจะได้รับประโยชน์ด้านสังคมในเกือบทุกมิติ ทว่าระดับการได้ประโยชน์ก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของประเทศนั้นๆ ขณะที่ช่องว่างทางสังคมระหว่างประเทศ ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามระดับการรวมตัวทางเศรษฐกิจ เพราะการส่งผ่านประโยชน์ทางเศรษฐกิจสู่ทางสังคม ย่อมขึ้นอยู่กับระดับรายได้ของแต่ละประเทศ เมื่อประเทศนั้นๆ มีรายได้สูงถึงระดับหนึ่งๆ
ช่องว่างทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นตามการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ทำให้อาเซียนต้องสร้างมาตรการรองรับทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ กระนั้นก็ดี หากเรานับว่าข้อตกลงประชมคมอาเซียนด้านสังคมวัฒนธรรม (ASEAN Social and Cultural Community) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่แสดงให้เห็นความตระหนักของอาเซียนในเรื่องดังกล่าว ก็ดูเหมือนมาตรการที่มีจะยังขาดทั้งความชัดเจนและไม่ได้คืบหน้ามากไปกว่าความคิดในแผ่นกระดาษ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงแนวนโยบายด้านสังคมของประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน ก็พบว่า นโยบายด้านการพัฒนาคน ที่ประกอบด้วยการพัฒนาด้านการศึกษา พัฒนาการจ้างงานและแรงงาน การพัฒนาคนในระบบราชการ ฯลฯ เป็นสิ่งที่อาเซียนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ขณะที่นโยบายด้านการคุ้มครองทางสังคม ประกันสังคม และการช่วยเหลือทางสังคม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อาเซียนสามารถได้รับประโยชน์จาก AEC ได้มากขึ้น เนื่องจากระบบคุ้มครองทางสังคมที่ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประเทศสมาชิกได้ในอนาคต
*หมายเหตุ

บทความข้างต้นสรุปย่อมาจากบทความชื่อเดียวกัน นำเสนอใน งานสัมมนาวิชาการประจำปี 2555 “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: มายาคติ ความเป็นจริง โอกาสและความท้าทาย” (ASEAN Economic Community: Myths, Reality, Potentials and Challenges) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

ตำรวจพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ตำรวจพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน:
alt


               วันที่ 18 ธ.ค. 2555 พ.ต.อ.บัญชา เศรษฐกร ผกก.สภ.เมืองลำพูน  แจ้งว่าตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน มีความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตามนโยบายของ สนง.ตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 5 หลังจากนี้การแจ้งเหตุจากทุกพื้นที่ใน จังหวัดลำพูนจะเข้าตรงไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191 ทั้งหมด และการรับแจ้งเหตุก็จะมีการเก็บข้อมูลและบันทึกเสียงเพื่อเก็บไว้ตรวจสอบ เชื่อว่าการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้เร็วขึ้นภายในไม่กี่นาที นอกจากนั้นยังช่วยลดปัญหาการโทรศัพท์เข้ามาก่อกวนได้อีกด้วย'

               สำหรับการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแบบใหม่นี้ ได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เช่นเดียวกับศูนย์ Call Center ของภาคเอกชน โดยระบบจะจัดการเสียงและข้อมูลแจ้งเหตุในรูปแบบดิจิตอล ส่งผ่านไปยังสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่มีสาเหตุจากบุคคลและอุปกรณ์ ในการจดบันทึกเหตุและการประสานงานที่ไม่ชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถสืบค้น รวบรวมข้อมูล ทั้งฐานข้อมูลบุคคล แผนผังสถานที่ในจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และที่สำคัญประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา

               นอกจากนี้แล้วการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 เป็นสิ่งสำคัญที่ข้าราชการตำรวจทุกนายต้องมีความพร้อมทั้งด้านภาษา สามารถใช้ภาษาต่างประเทศกับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ เน้นสร้างความสัมพันธ์ ความมั่นคง และการพัฒนาทรัพยากรมุนษย์ ด้านแรงงานและผู้ประกอบการ ยกระดับให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ จากหน่วยระดับกองกำกับการ กองบังคับการ เรื่อยไปจนถึงระดับกองบัญชาการ เนื่องจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนทำให้งานด้านการต่างประเทศมีความสำคัญมากขึ้น ต้องปรับปรุงและพัฒนาเป็นภาพลักษณ์สากล ซึ่งทาง สนง.ตำรวจแห่งชาติ พร้อมที่จะเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 เป็นต้นไป โดยให้ศึกษาการรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป หรือ อียู เป็นต้นแบบ



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก


การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๗ ( 7th ASEAN Senior Officials Meeting on Education – 7th SOM-ED)

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๗ ( 7th ASEAN Senior Officials Meeting on Education – 7th SOM-ED):

alt
            กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียนได้จัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๗ ( 7th ASEAN Senior Officials Meeting on Education – 7th SOM-ED) ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๓ ( 3rd ASEAN+3 Senior Officials Meeting on Education – 3rd SOM-ED+3) ระหว่างวันที่ ๒๙ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ โรงแรมแกรนด์ มิลเลนเนียม สุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยมีรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.สมบัติ  สุวรรณพิทักษ์) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้มีสาระสำคัญของการประชุมฯ มีดังต่อไปนี้
          ๑. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๗
๑.๑ Prof. Dr. Ainun Na’im ปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๗ กล่าวเปิดการประชุม พร้อมแจ้งถึงความร่วมมือด้านการศึกษาที่สำคัญของอาเซียน ได้แก่ การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ๕ ปีด้านการศึกษา การเปิดตัวเอกสารต้นฉบับหลักสูตรอาเซียน (ASEAN Curriculum Sourcebook) ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากประเทศสมาชิกอาเซียน สำนักเลขาธิการอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์การซีมีโอ รวมทั้งองค์การและสถาบันที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค
๑.๒ สำนักเลขาธิการอาเซียนแจ้งที่ประชุมให้ทราบถึงผลการประชุมด้านการศึกษาในกรอบอาเซียนได้แก่ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเยาวชนของอาเซียน ครั้งที่ ๖ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๑๒ การประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๘ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๑ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้รายงานเกี่ยวกับการติดตามผลการดำเนินงานตามมติ  ที่ประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ ๗ ได้แก่ ASEAN Single Window  เอกสารต้นฉบับหลักสูตรอาเซียน (ASEAN Curriculum Sourcebook)  และตัวชี้วัดการดำเนินการตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC Blueprint) รวมทั้งความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ๕ ปี ด้านการศึกษาของอาเซียน ซึ่งปัจจุบันได้มีการดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ แล้ว จำนวน ๗๐ โครงการ                                                     



      ๒. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๓

      Mr. Mak Ngoy อธิบดีกรมการอุดมศึกษากระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และกีฬา ประเทศกัมพูชา เป็นประธานการประชุม  โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๑  การประชุมด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องได้แก่ การประชุมสุดยอดอาเซียน – จีน ครั้งที่ ๑๕ การประชุมสุดยอดอาเซียน – ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๑๕ การประชุมสุดยอดอาเซียน – เกาหลี ครั้งที่ ๑๕ และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๗ และความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ/กิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียนบวกสาม (๒๕๕๓ – ๒๕๖๐) รวมทั้งได้ให้ความเห็นชอบแก่ข้อเสนอให้จัดเวทีการประชุมระหว่างอาเซียนและประเทศคู่เจรจาด้านการศึกษา (ASEAN Plus One) เช่น อาเซียน-จีน ทั้งในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส


สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป.

กระทรวงศึกษาธิการ


นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ

นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ:



นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปีของการประชุมอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ จากนั้น มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ อาทิ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนชั้นนำจากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม อาทิ สาขาอาหาร/สินค้าเกษตร สาขาพลังงาน/เศรษฐกิจสีเขียว สาขาชิ้นส่วน ยานยนต์ สาขาการก่อสร้าง สาขาการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสาขาเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชนสำคัญๆ ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เป็นต้น ร่วมเดินทางไปด้วย
การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ ครั้งนี้ เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือในอนาคตของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยกับอินเดียในด้านการค้าการลงทุน การส่งเสริมความเชื่อมโยงกับอินเดียแบบรอบด้าน และความร่วมมือกับอินเดียในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ซึ่งไทยจะใช้โอกาสนี้ต่อยอดความร่วมมือประเด็นที่ไทยได้เคยผลักดัน อาทิ การย้ำจุดแข็งของไทยในการเป็น land bridge เชื่อมโยงอาเซียนกับอินเดีย การที่ไทยมีความร่วมมือกับอินเดียในกรอบต่างๆ อาทิ BIMSTEC และ Mekong Ganga ทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน การเร่งให้สองฝ่ายผ่อนปรนท่าทีเพื่อให้บรรลุความตกลง FTA โดยเร็ว รวมถึงการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชน เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีภารกิจในการเดินทางไปสักการะสังเวชณียสถานที่พุทธคยาและสถานที่สำคัญในเมืองคยา รวมถึงการร่วมพิธีรับขบวน ASEAN-India Car Rally ณ กรุงนิวเดลีด้วย
ส่วนการเยือนบังกลาเทศอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีจะเข้าเยี่ยมคารวะนายซิลลู ราห์มาน ประธานาธิบดีบังกลาเทศ และจะมีการหารือในประเด็นต่างๆ ทั้งระดับทวิภาคี ภูมิภาคและพหุภาคี ที่ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงเป็นการฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ ๔๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ดำเนินไปด้วยดี



ผู้สื่อข่าว : ชีวีรัตน์ ภักดี / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กสทช. เปิดเวทีเสวนาศักยภาพและความพร้อมของกิจการโทรคมนาคมไทย เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 รับฟังปัญหา อุปสรรคและทิศทางการสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสู่อาเซียน

กสทช. เปิดเวทีเสวนาศักยภาพและความพร้อมของกิจการโทรคมนาคมไทย เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 รับฟังปัญหา อุปสรรคและทิศทางการสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสู่อาเซียน:



กสทช. เปิดเวทีเสวนาศักยภาพและความพร้อมของกิจการโทรคมนาคมไทย เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 รับฟังปัญหา อุปสรรคและทิศทางการสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสู่อาเซียน
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จัดเสวนาศักยภาพและความพร้อมของกิจการโทรคมนาคมไทยเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 โดยพลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรมกิจการโทรคมนาคมทั้งภาครัฐและเอกชนมาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงศักยภาพความพร้อมของกิจการโทรคมนาคมที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รับฟังปัญหาอุปสรรคที่จะกระทบต่อกิจการโทรคมนาคม ความต้องการสนับสนุนจากภาครัฐ ตลอดจนนำมาประมวลกำหนดเป็นนโยบายสนับสนุนและวิสัยทัศน์การพัฒนากิจการโทรคมนาคมสู่อาเซียน
ขณะที่ความพร้อมของประเทศไทยในกิจการโทรคมนาคมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นด้านข้อมูลอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งประเทศของไทย เพื่อมาจัดทำเป็นแผนดำเนินการทั้งการแก้ไขปัญหา อุปสรรค และความต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เพื่อการพัฒนากิจการโทรคมนาคมในประชาคมอาเซียน


ผู้สื่อข่าว : อนงนาฎ สิทธิคง / สวท. อนงนาฎ สิทธิคง / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

สช.เร่งทำแผนพัฒนาครูรองรับอาเซียน เน้นบูรณาการนโยบายของ รัฐ ศธ.และ ร.ร.เอกชนเข้าด้วยกัน

สช.เร่งทำแผนพัฒนาครูรองรับอาเซียน เน้นบูรณาการนโยบายของ รัฐ ศธ.และ ร.ร.เอกชนเข้าด้วยกัน:

alt
 

       นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับทราบถึงงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2556 ที่ สช.ได้รับอนุมัติจากสำนักงบประมาณ ทั้งสิ้น 36,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 35,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 98 เป็นเงินรายหัวของนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่ สช.จัดสรรให้กับโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศประมาณ 4,000 โรง ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่ได้รับเงินในส่วนนี้ ประมาณ 2,300,000 คน อย่างไรก็ตาม เงินรายหัวที่เหลือจากส่วนนี้จะเป็นเงินสำหรับการพัฒนาครูเอกชนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ

     

       “ที่ประชุมยังมอบหมายให้สช.ได้ทำแผนรองรับเรื่องการพัฒนาครูเอกชนเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 และการศึกษานานาชาติให้ชัดเจน โดยจะต้องผนวกนโยบายเกี่ยวกับอาเซียนของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และภาคเอกชน บูรณาการเข้าด้วยกัน เพื่อให้ครูและนักเรียนได้มีตัวชี้วัดในการเรียนรู้เรื่องของอาเซียนได้อย่างชัดเจน เช่น ต้องพูดภาษาอาเซียนให้ได้ เป็นต้น นอกจากนี้โรงเรียนจะต้องมีตัวชี้วัดอะไรที่บ่งบอกถึงความพร้อมจุดเน้นของอาเซียนให้สอดคล้องกับนโยบายของศธ.ด้วย” นายชาญวิทย์ กล่าว


แหล่งที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปิดการสัมมนา เรื่อง ประชาคม สังคมและวัฒนธรรม นำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ภายใต้การเปิดประชาคมเศษฐษกิจอาเซียน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปิดการสัมมนา เรื่อง ประชาคม สังคมและวัฒนธรรม นำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ภายใต้การเปิดประชาคมเศษฐษกิจอาเซียน:



รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปิดการสัมมนา เรื่อง ประชาคม สังคมและวัฒนธรรม นำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ภายใต้การเปิดประชาคมเศษฐษกิจอาเซียน
นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมนาเรื่อง "ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมนำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน" ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ จัดโดยสถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งการสัมมนาเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงแนวทางการเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย เน้นความร่วมมือใน 3 ประเด็นหลัก คือด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยประชาคมอาเซียน จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงประเทศต่างๆ เข้าด้วยกัน ให้เป็นสังคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน ประชาชนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี ด้านนางศันสนีย์ กล่าวว่า การสัมนาในวันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคม จากการที่ประชาชน เข้าใจถึงประโยชน์ที่จะมีร่วมกันระหว่างอาเซียน ประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ รวมถึงส่งผลให้ประชาคมอาเซียนประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ ภายในงานมีการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างประชาคมทางสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วยสถานทูตในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทย ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนกว่า 400 คน


ผู้สื่อข่าว : ขวัญชนก เจริญชัย/ สวท. ขวัญชนก เจริญชัย/ สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว : นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์

คมนาคม เตรียมเปิดเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 ภายในปี 2556

คมนาคม เตรียมเปิดเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 ภายในปี 2556:



กระทรวงคมนาคม เตรียมเปิดเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 5 ภายในปี 2556 เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมด้านการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการเดินรถร่วมหารือ ว่า จากที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการหารือกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งลาว-กัมพูชา-มาเลเซีย-พม่า และเวียดนาม ถึงแนวทางความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เบื้องต้นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะหารือในการประชุมรัฐมนตรี ไทย-ลาว-เวียดนาม ถึงเส้นทางการขนส่งสินค้า ผู้โดยสาร และการท่องเที่ยว ซึ่งจะนัดหารือกันต้นเดือนมกราคม 2556 เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและความเหมาะสมของแต่ละเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีความตกลงเรื่องการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง-เวียงจันทร์ และหรือ CDTA ไปตามทางหลวงหมายเลข 8 และ 12 อย่างไรก็ตาม จากการประชุมทางคณะทำงานมองว่าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดควรจะทำเส้นทางไปสู่ภาคใต้ของประเทศไทย เส้นทางกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง-เวียดนาม สำหรับแนวทางปฏิบัติร่วมกันทั้งกำหนดเส้นทางในการเดินรถ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว ส่วนแนวทางการเดินรถและวิธีการดำเนินงานต้องมีการกำหนดร่วมกันและจากที่ศึกษาไว้รัฐบาลจะเข้าไปดำเนินการบริเวณด่านชายแดน เพื่อจัดหาอุปกรณ์ในการเปลี่ยนถ่ายสินค้าและผู้โดยสาร และให้เอกชนเข้ามารับช่วงต่อบริเวณด่านชายแดน เนื่องจากถนนในประเทศไทยขับพวงมาลัยด้านขวา ส่วนลาว-เวียดนาม ขับพวงมาลัยด้านซ้าย โดยมั่นใจว่า หลังจากการหารือในเดือนมกราคม 2556 และหากได้ข้อสรุปจะสามารถเปิดเดินรถระหว่างกันได้ ทั้งหากเปิดเดินรถในเส้นทางดังกล่าวจะช่วยร่นระยะทางเดินทาง จากปัจจุบันใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 9 ด่านมุกดาหาร ได้ถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการเดินรถได้อย่างมาก เป็นการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558
รองปลัดกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-ปากแช ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการก่อสร้างได้ภายในปี 2556 สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างยังไม่มีการหารือ



ผู้สื่อข่าว : นภสร แก้วคำ(2) / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว : นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การสัมมนา : “ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมนำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน” วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555

การสัมมนา : “ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมนำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน” วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555:
กำหนดการสัมมนาเรื่อง

“ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมนำสันติสุขสู่ประชาคมอาเซียน”        

                                        
จัดโดย
สถาบันพระปกเกล้า (นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น ๓)
ร่วมกับ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
วันจันทร์ที่ ๑๗  ธันวาคม  ๒๕๕๕
ณ  โรงแรมรามาการ์เด้นส์   กรุงเทพมหานคร
…………………………………………
  • ๐๘.๓๐-๐๙.๐๐ น. ลงทะเบียน
  • ๐๙.๐๐-๐๙.๑๕ น. การแสดงนาฏลีลาอาเซียน
  • ๐๙.๑๕-๐๙.๔๕ น. ฯพณฯ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี   นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา)

    เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนา
  • กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของแต่ละหน่วยงานเจ้าภาพโดย อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
  • ๐๙.๔๕-๑๐.๑๕ น. ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ภาพอนาคตของประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน:    ความฝันการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข” โดย นายพงศ์เทพ  เทพกาญจนา    รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
  • ๑๐.๑๕-๑๐.๓๐ น.  พักรับประทานอาหารว่าง
  • ๑๐.๓๐-๑๐.๔๐ น.  การแสดงวัฒนธรรมจากประเทศอินโดนีเซีย
  • ๑๐.๔๐-๑๑.๐๐ น.  แนวคิดในการขับเคลื่อนประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน โดย ผู้อำนวยการหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุขสถาบันพระปกเกล้า (พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ)
  • ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ น.  เล่าสู่กันฟัง “การเตรียมพร้อมของประชาคมสังคมของแต่ละประเทศอาเซียน” โดยผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน
–  เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย
–  เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
  • ดำเนินรายการโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปราณี  ทิพยรัตน์
  • ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น.  พักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมรับชมการแสดงดนตรี จากนักเรียนโรงเรียนวินิตศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จ.ลพบุรี
  • ๑๓.๐๐-๑๔.๐๐ น. การอภิปรายเรื่อง “อัตตลักษณ์อาเซียนและการดำรงอยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ภาษาและวัฒนธรรม”
วิทยากร
๑) พระศรีคัมภีรญาณ รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการ  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒) ม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล  รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
๓) ส.ศิวรักษ์  (นายสุลักษณ์  ศิวรักษ์)  นักวิชาการอิสระ
๔) นางเตือนใจ  ดีเทศน์
ดำเนินรายการโดย  คุณภัทร  จึงกานต์กุล
  • ๑๔.๐๐-๑๔.๑๕ น.  พักรับประทานอาหารว่าง
  • ๑๔.๑๕-๑๕.๑๕ น.  การอภิปรายเรื่อง “ผลกระทบทางสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็น         ประชาคมอาเซียน รวมทั้งโอกาสและความท้าทายของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้     ในสังคมอาเซียน”
วิทยากร
๑) ดร.วีรศักดิ์  โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและอดีตผอ.สถาบันระหว่างประเทศการค้าและการพัฒนา
๒) พันตำรวจเอก ทวี  สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต)
๓) นายอัฮหมัดสมบูรณ์  บัวหลวง  นักวิชาการอิสระ
ดำเนินรายการโดย  คุณไอริณ  ดำรงค์มงคลกุล
  • ๑๕.๑๕-๑๕.๓๐ น. สรุปการอภิปรายและแสดงความคิดเห็น
  • ๑๕.๓๐-๑๖.๐๐ น.  กล่าวแสดงความคิดเห็นและกล่าวปิดโดย นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
———————————————–

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หลังจากทีมชาติไทย ทำผลงานเสมอ มาเลเซีย 1-1 ประตู ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ2012” เมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังจากทีมชาติไทย ทำผลงานเสมอ มาเลเซีย 1-1 ประตู ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ2012” เมื่อคืนที่ผ่านมา:



หลังจากทีมชาติไทย ทำผลงานเสมอ มาเลเซีย 1-1 ประตู ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ2012” เมื่อคืนที่ผ่านมา

ที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาเล่นนัดที่สอง ที่สนามศุภชลาศัย วันที่ 13 ธันวาคม นายชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีต ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดรองแชมป์อาเซียนคัพ2007 ชื่นชมการ แก้เกมของวินฟรีด เชเฟอร์ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่ตัดสินใจส่งกองหน้าเพิ่ม จนทำให้ไทยไล่ตีเสมอได้สำเร็จ พร้อมแนะผู้เล่นทีมไทย อย่าประมาทมาเลเซีย ที่พัฒนาฝีเท้าดีขึ่นมาก


ผู้สื่อข่าว : วินิดา สุขกาย(2) / สวท. วินิดา สุขกาย(2) / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไทย เตรียมเสนอจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางการทะเบียนและฐานข้อมูลประชากรแห่งอาเซียน ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยการปรับปรุงระบบการทะเบียนและสถิติชีพ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ไทย เตรียมเสนอจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางการทะเบียนและฐานข้อมูลประชากรแห่งอาเซียน ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยการปรับปรุงระบบการทะเบียนและสถิติชีพ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก:



ไทย เตรียมเสนอจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางการทะเบียนและฐานข้อมูลประชากรแห่งอาเซียน ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยการปรับปรุงระบบการทะเบียนและสถิติชีพ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 11 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร
ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสถิติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เรียกร้องให้มีการดำเนินการปรับปรุงระบบการทะเบียนและสถิติชีพ (CRVS) ในภูมิภาคนี้ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอสแคป) จึงได้รับรองข้อมติ และมอบหมายให้สำนักเลขาธิการ เอสแคป จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่เป็นผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายจากองค์กรระดับชาติ ด้านสถิติ ด้านทะเบียน ด้านสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย เพื่อยกระดับการตระหนักรู้ ส่งเสริม และเพิ่มพูนความมุ่งมั่นของประเทศต่าง ๆ ในการพัฒนาปรับปรุงระบบการทะเบียนและสถิติชีพ โดยจะเริ่มเผยแพร่แนวคิด Make Every Life Count หรือให้ทุกชีวิตได้รับการเหลียวแล ซึ่งจะต้องให้ประชาชนทุกคนได้รับการรับรองทางการทะเบียนของรัฐ โดยเฉพาะการมีชื่อและข้อมูลสำคัญอยู่ในระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนประชากรของประเทศ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก เอสแคป องค์การอนามัยโลก ภาคีเครือข่าย 18 องค์กร รวมทั้งสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วย ปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้อำนวยการจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 100 คน จาก 49 ประเทศ สหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 10 ธันวาคม จัดประชุมครั้งนี้ เนื่องจากเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล และระบบการทะเบียนได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกสำคัญของทุกประเทศในการรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานแต่แรกเกิดของมนุษยชาติ นอกจากนี้ สหประชาชาติ เตรียมจัดประชุมว่าด้วยการทะเบียนและสถิติชีพแห่งโลกที่กรุงเทพมหานคร ในต้นปี 2556 ด้วย
สำหรับพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้ จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 10 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดประทรวงมหาดไทย เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์หลัก และเปิดการประชุมในนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยกระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอที่ประชุมเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมการทะเบียนและฐานข้อมูลประชากรอาเซียน เพื่อเป็นเวทีเครือข่ายการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรม การดูงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการทะเบียน ซึ่งไทยได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติให้เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านระบบการทะเบียนระดับสูงสุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคนี้
การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงฯ ในประเทศไทยครั้งนี้ จะมีการประชุมหารือพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค เพื่อการปรับปรุงพัฒนาระบบการทะเบียน การทะเบียนราษฎร การทะเบียนทั่วไปและสถิติชีพ ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคนี้ ประกอบด้วยเป้าประสงค์ 8 ประการ ซึ่งครอบคลุมแนวทางดำเนินการของแต่ละประเทศ ตลอดจนกิจกรรมสนับสนุนของภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาในการพยายามปรับปรุงระบบการทะเบียน คือ การยกระดับความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของระบบการทะเบียน-สถิติชีพและการดำเนินการขจัดอุปสรรคปัญหาในทุกระดับ ความมุ่งมั่นทางการเมืองอย่างต่อเนื่องจริงจังของแต่ละประเทศในการสนับสนุนการพัฒนาปรับปรุงระบบการทะเบียน-สถิติชีพอย่างต่อเนื่อง การจัดสรรงบประมาณลงทุนที่เพียงพอและต่อเนื่องในการพัฒนาระบบทะเบียน การปรับปรุงและเสริมสร้างนโยบาย กฎหมายและดำเนินตามระเบียบกฎเกณฑ์ในการปรับปรุงระบบทะเบียน-สถิติชีพ การปรับปรุงการใช้ประโยชน์และคุณภาพของเอกสารทางการทะเบียนที่มีความสำคัญทางกฎหมายของประชาชนทุกคน การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อการบันทึกทางทะเบียน การจัดเก็บรวบรวม การวิเคราะห์และการเผยแพร่สารสนเทศทางทะเบียนและสถิติชีพที่มีความถูกต้อง สมบูรณ์และเชื่อถือได้ การจัดให้มีกลไกของรัฐและภาคีเครือข่าย เพื่อความร่วมมือทางด้านการทะเบียนและสถิติชีพอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย-แปซิฟิก ให้สามารถใช้ประโยชน์ข้อมูลทางการทะเบียนและสถิติชีพเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิผล

ผู้สื่อข่าว : ขนิษฐา ลือสัตย์


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โรงเรียนห้องสอนศึกษา จ.แม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์อาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน บุคลากรและประชาชนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

โรงเรียนห้องสอนศึกษา จ.แม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์อาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน บุคลากรและประชาชนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558:



นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดศูนย์อาเซียน ที่โรงเรียนห้องสอนศึกษา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน บุคลากรและประชาชน ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ในงานมีการออกซุ้มอาหาร และของที่ระลึก ประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน

ศูนย์อาเซียนแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้สร้างความตระหนักและเจตคติที่ดีต่อประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งจัดการเรียนการสอนที่เน้นภาษาอังกฤษและภาษาของอาเซียน ภายในศูนย์อาเซียน ประกอบไปด้วยประวัติและความรู้เกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10ประเทศ



ผู้สื่อข่าว : แม่ฮ่องสอน(สวท.) แม่ฮ่องสอน(สวท.)


หน่วยงาน : สำนักข่าว


ที่มาของข่าว : นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ รองผู้ว่าฯแม่ฮองสอน

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สิงคโปร์เป็นชาติที่ไร้อารมณ์ที่สุดในโลก

สิงคโปร์เป็นชาติที่ไร้อารมณ์ที่สุดในโลก:
ผลสำรวจจาก Gallup Poll ของสหรัฐอเมริกาชี้ว่า สิงคโปร์เป็นชาติที่ผู้คนไร้อารมณ์ความรู้สึกต่อประสบการณ์ในชีวิตประจำวันที่สุดในโลก เนื่องจากสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยการต่อสู้แข่งขันและความตึงเครียด จนไม่เหลือเวลาให้กับอารมณ์ความรู้สึกมากนัก
อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสข่าวสำคัญในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชาวสิงคโปร์ต่างออกมาแสดงความเห็นผ่านสื่อสาธารณะ ทั้งที่เห็นด้วยและโต้แย้ง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า แม้สังคมสิงคโปร์จะมีความเข้มแข็งและมีความปลอดภัย ทว่าผู้คนกลับต้องแข่งขันเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า อย่างไรก็ดี หลายคนก็โต้แย้งว่าการออกมาแสดงความเห็นของชาวสิงคโปร์ต่อผลสำรวจดังกล่าวนี้เอง เป็นหลักฐานยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ไร้อารมณ์ความรู้สึกอย่างที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด
อนึ่ง การสำรวจดังกล่าวได้สัมภาษณ์คนจำนวน 1, 000 คน จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับชีวิตประจำวันของตัวเอง โดยตัวแทนชาวสิงคโปร์จำนวน 36 % กล่าวว่าพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย ขณะเดียวกัน ผลสำรวจยังให้ข้อมูลว่า ฟิลิปปินส์และประเทศในอเมริกาใต้ เป็นกลุ่มประเทศที่ประชาชนมีอารมณ์ความรู้สึกต่อเรื่องราวต่างๆ สูงที่สุดในโลก
http://www.bangkokpost.com/news/asia/322765/singaporeans-react-to-emotionless-tag

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มั่นใจศักยภาพของทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ได้แน่นอน

เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มั่นใจศักยภาพของทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ได้แน่นอน:



ความเคลื่อนไหวของนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012" รอบรองชนะเลิศ ซึ่งทีมไทย มีโปรแกรมจะออกไปเยือนทีมชาติมาเลเซีย แชมป์เก่า 2 ปีที่แล้ว ในนัดแรก วันที่ 9 ธันวาคมนี้ ที่สนามบูกิต จาลิล ส่วนนัดที่ 2 ทีมไทยจะได้เล่นในบ้าน วันที่ 13 ธันวาคม ที่สนามศุภชลาศัย และวานนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เรียกผู้เล่นทั้ง 22 คนเข้ามารายงานตัวที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โดยมีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้จัดการทีมชาติไทย เดินทางมาให้กำลังใจด้วย พร้อมกล่าวว่า คณะทีมชาติไทยทั้งหมดจะเดินทางลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. จากนั้นจะเดินทางไปรับเงินบำรุงทีมจาก พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะออกเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้
ขณะที่นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทีมชาติไทยกำลังกลับมาอย่างมีรูปแบบที่สมบูรณ์ จากที่ไม่มีความพร้อมเพรียงและขาดศักยภาพ แต่ขณะนี้มีการบริหารจัดการ รวมถึงการวางแผนการทำทีมที่ดีขึ้น เห็นได้จากผลงานใน 3 นัดที่ผ่านมา มั่นใจว่า เราสามารถเข้าไปชิงชนะเลิศได้แน่นอน
ส่วนความพร้อมทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ชุดแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ และซีเกมส์ในปีหน้า นางศิริวรรณย ปราศจากศัตรู ประธานพัฒนาฟุตซอลหญิง เปิดเผยว่า ตั้งใจพัฒนาวงการฟุตซอลหญิงให้เป็นที่รู้จักทั่วเอเชีย โดยเป้าหมายในปี 2556 คือการครองแชมป์ เอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ให้ได้ รวมถึงกีฬาซีเกมส์ที่ต้องรักษาแชมป์ให้ได้ ซึ่งมีแผนให้ทีมงานผู้ฝึกสอนตระเวนหานักฟุตซอลหญิงฝีเท้าดีในกีฬาแห่งชาติ ที่จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนหน้า มาเป็นกำลังสำคัญของทีมต่อไป ด้านนายพัทยา เปี่ยมคุ้ม หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมทีมเพื่อแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ กลางปีหน้า โดยจะตระเวนอุ่นเครื่องและหาทัวร์นาเมนต์ 4 เส้าเพื่อทดสอบทีม เช่นเดียวกับการเก็บตัวที่คาดว่าจะได้โอกาสไปเก็บตัวที่ประเทศสเปน
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมเชลซี กระตุ้นลูกทีมให้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา เพื่อพลิกสถานการณ์ จากที่ตกที่นั่งลำบาก ให้กลับมาอยู่ในฟอร์มดีอีกครั้งในช่วงที่เหลือ หลังคุมทีมผ่านไป 3 เกมยังไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย ทั้งนี้ มองว่า ผู้เล่นที่มากประสบการณ์ของทีม ควรแสดงบทบาทความเป็นผู้นำ ลงเล่นด้วยความมั่นใจและประคองทีมกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง พร้อมขอให้บรรดาดาวรุ่งของทีม แสดงออกมาว่าสามารถรับมือกับความแข็งแกร่งในเวทีพรีเมียร์ลีกได้ เพราะถือเป็นลีกที่สู้กันด้วยความแข็งแกร่งของร่างการอย่างแท้จริง
มาที่การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน "ภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า" ครั้งที่ 26 ประจำปี 2555 ที่หาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต มีเด็กด้อยโอกาสได้รับการสนับสนุนจากชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบกีฬาเรือใบ จนมีโอกาสเป็นตัวแทนทีมไทยเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ คุณอลิษา วิเศษสิงห์ รายงาน
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย รายการ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2013 ทั้ง 3 สนาม ได้ประกาศผลออกมาแล้ว โดยสนามแรกระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคมปีหน้า ต่อด้วยสนาม 2 ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม และสุดท้ายสนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคม ปรากฏว่า ทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทย ประเดิมสนามแรก กลุ่มซี ที่ประเทศตุรกี มี ญี่ปุ่น, ตุรกี เจ้าภาพ และตัวแทนจากแอฟริกา ต่อด้วยสนามที่ 2 กลุ่มเจ ที่ประเทศรัสเซีย ประกอบด้วยทีม รัสเซีย เจ้าภาพ , อิตาลี, ไทย และคิวบา ส่วนสนาม 3 ที่ประเทศไทย กลุ่มแอล ประกอบด้วย รัสเซีย, ไทย เจ้าภาพ, เยอรมนี และเปอร์โตริโก ส่วนรอบชิงชนะเลิศ แข่งที่เมืองซับโปโร ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2556 โดยจะนำคะแนนรวมของการจัดอันดับ การแข่งขัน วอลเลย์บอล เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ทั้ง 3 สนาม ทั้งสิ้น 6 ทีมที่ดีที่สุดเข้าสู่รอบสุดท้ายต่อไป ล่าสุด โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เป็นงานที่หนักสำหรับทีมไทย แต่เชื่อว่าการที่ลูกทีมซึ่งเกือบทั้งทีมขณะนี้ ไปเล่นลีกอาชีพที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน จะได้รับประสบการณ์และเป็นการฝึกซ้อมไปในตัว แต่เป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บ ซึ่งทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อให้พร้อมลงแข่งขันรายการสำคัญอีกหลายรายการ ขณะที่ทางสต๊าฟโค้ชได้วางแผนการทำทีมอยู่แล้ว
ผลการแข่งขันเทนนิสอุ่นเครื่องรายการพิเศษ "ไมอามี เทนนิส คัพ" ที่เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง แอนดี ร็อดดิก ขวัญใจเจ้าถิ่น ที่เพิ่งแขวนแร็กเก็ตไปก่อนจบฤดูกาลที่รายการ ยูเอส โอเพน พบกับ นิโคลัส อัลมาโกร มือ 11 ของโลกจากสเปนปรากฏว่า แอนดี ร็อดดิก แพ้ไป 0-2 เซต 4-6 และ 5-7 แต่ยืนยันว่า มีความสุขที่ได้กลับมาเล่นเทนนิสอีกครั้ง แม้ไม่ใช่การเล่นในฐานะนักกีฬาอาชีพสมาคมเทนนิสออสเตรเลีย ประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2012 หรือรางวัล "นิวคอมบ์ เมดัล" ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยรางวัลนี้เป็นของ ซาแมนธา สโตเซอร์ วัย 28 ปี ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครอง แม้ผลงานในปีนี้จะไม่โดดเด่น ไม่ได้แชมป์ติดมือ แต่เป็นนักเทนนิสออสเตรเลียที่ผลงานดีที่สุด โดยผลงานดีที่สุดของ สโตเซอร์ คือ รองแชมป์รายการ "เครมลิน คัพ" ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อเดือนตุลาคม และเป็นนักเทนนิสออสเตรเลียคนแรก นับตั้งแต่ เวนดี เทิร์นบูลล์ ที่จบอยู่ในอันดับ 1 ใน 10 ของโลกได้ 3 ปีติดต่อกัน
ส่วนการจัดอันดับโลกนักกอล์ฟชาย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันกอล์ฟยูโรเปียน ทัวร์ ปรากฎว่า รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรจากไอร์แลนด์เหนือ ยังรักษาอันดับ 1 ของโลกต่อไป ส่วนท็อป 5 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เมื่อ หลุยส์ อุสต์ไฮเซน โปรแอฟริกาใต้ ขึ้นมาแทนที่ อดัม สกอตต์ จากออสเตรเลีย ขณะที่โปรกอล์ฟชาวไทย "โปรเล็ก" ถาวร วิรัตน์จันทร์ นักกอล์ฟไทย ผู้นำอันดับทำเงินของ เอเชียน ทัวร์ "ออร์เดอร์ ออฟ เมอร์ริต" ขยับจากอันดับ 79 ของโลก ขึ้นมาอยู่ที่ 73 หลังจบกอล์ฟ "คิงส์ คัพ" ที่ประเทศไทย ส่วน "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี นักกอล์ฟหมายเลข 1 ของไทย อยู่ที่ 101 ของโลก


ผู้สื่อข่าว : วินิดา สุขกาย(2) / สวท. วินิดา สุขกาย(2) / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประธานอาชีวศีกษาภาคอิสานเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

ประธานอาชีวศีกษาภาคอิสานเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน:



ประธานกรรมการอาชีวศีกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางได้เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ระบุภาษาและทักษะ ใครดีกว่าประเทศนั้นย่อมได้เปรียบ

นายสมใจ เชาว์พานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ประธานกรรมการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยหลังเปิดงานการแข่งขันระดับอาชีวศึกษาวิชาชีพ จังหวัดสุรินทร์ ว่า ในส่วนของอาชีวศึกษา ขณะนี้ได้เตรียมผลิตกำลังพลด้านนี้ โดยทางรัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบาย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนให้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้ โดยได้จัดงบประมาณให้ทางสถานศึกษาต่างๆ ในขั้นแรก ได้นำเอาคำว่าอาเซียนมาสอดแทรกในเนื้อหาวิชาเรียนเกือบทุกวิชา

ในห้วงเวลาต่อจากนี้ ไปเราต้องเตรียมตัวก่อนปี 2558 นี้ อันดับแรกคือเรื่องของภาษา ซึ่งขณะนี้เราได้จัดให้มีครูภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ทุกสถานศึกษา เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตประจำวันในการเรียนรู้ อย่างน้อยเขาจะภาษาเพิ่มอีกภาษา ในเบื้องต้นเราได้เตรียมความพร้อมของสถานศึกษา ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และจัดเป็นมุมอาเซียน อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าอาเซียนคืออะไร โดยในขณะนี้ได้ปูพื้นฐานเรื่องภาษาสอดแทรกอันดับแรก พร้อมทั้งพัฒนาการทำงานให้เป็นสากล เพื่อสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558




ผู้สื่อข่าว : กัญญรัตน์ เกียรติสุภา


หน่วยงาน : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์


ที่มาของข่าว : นายสมใจ เชาว์พานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ประธานกรรมการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012" ทีมชาติไทย ผลงานเยี่ยมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ลุ้นคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012" ทีมชาติไทย ผลงานเยี่ยมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ลุ้นคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี:



ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012" ทีมชาติไทย ผลงานเยี่ยมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ลุ้นคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

ทีมฟุตบอลไทย ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นทีมแรกในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอ ซูซูกิ คัพ 2012” ทำให้สื่อมวลชนทั่วอาเซียน ต่างพากันยกย่องผลงานการเล่นของไทยว่ามีดีพอที่จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ฟุตบอลถ้วยอาเซียนได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี แน่นอน พร้อมทั้งยกย่อง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าทีมชาติไทย ว่าเป็นผู้เล่นที่มีความครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งในระดับเอเชีย ทั้งความเร็ว และเรื่องของการหาจังหวะการจบสกอร์ที่เฉียบคม จึงกลายเป็นเต็งหนึ่งในการคว้ารางวัลผู้ยิงประตูสูงสุดในรายการนี้
ซึ่งผู้เล่นชุดนี้ หวังสู้เต็มที่ในทุกนัดที่ลงสนามเพื่อหวังเรียกศรัทธาแฟนบอลชาวไทยคืน
ทั้งนี้ทีมไทยเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเอ. ทำให้ถูกวางโปรแกรมให้ลงแข่งรอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ในบ้านตัวเอง ที่สนามศุภชลาศัย
ขณะที่ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ประกาศอัดฉีดหาก ไทย ชนะแต่ละนัด ผู้เล่นและทีมงาน รวม 40 คน จะได้รับทองคำหนัก 1 บาท ต่อคน ซึ่งหากทีมชาติไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จด้วยการชนะ 7 นัดรวด จะได้รับทองคำอัดฉีดรวมกว่า 280 บาท คิดเป็นเงินรวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 7,112,000 บาท
ฟุตบอลนักเรียนอายุไม่เกิน 15 ปี ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-8 ธันวาคมนี้ ที่สนามศุภชลาศัย และสนามเทพหัสดิน โดยแบ่งการแข่งขันเป็น สายเอ. ประกอบด้วย อินโดนีเซีย แชมป์เก่า, บรูไน, จีน และสายบี. ไทย รองแชมป์เก่า ,มาเลเซีย ,ศรีลังกา และ มาเก๊า สำหรับนัดเปิดสนาม ทีมไทย พบ มาเลเซีย วันที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 18.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย
หลังจากที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดประมูลสิขสิทธิ์ต่ออีก 3 ฤดูกาลทั่วโลก ในปี 2013-16 และปรากฏว่า บริษัท เคเบิล ไทยโฮลดิ้ง จำกัด หรือ ซีทีเอช คือผู้ชนะการประมูลของประเทศไทย ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 202 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9 พัน 7 ร้อยล้านบาท เป็นมูลค่ามากกว่า ทรู วิชั่นส์ เจ้าของสัญญาเดิม ถึง 432 เปอร์เซ็น โดยครั้งที่แล้ว ทรู วิชั่นส์ ใช้เงินในการประมูลอยู่ที่ 38 ล้านปอนด์
นอกจากนี้ การประมูลสิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ครั้งล่าสุดของ ซีทีเอช ยังถือว่ามีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นเปอร์เซ็นมากที่สุด เป็นรองแค่ พม่า ที่ยอมจ่าย 25 ล้านปอนด์ จากสัญญาเดิม 2 แสนปอนด์ ส่งให้ พม่า มีมูลค่าเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 12,400 เปอร์เซ็น ขณะเดียวกัน ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น เวียดนาม, อินเดีย และมาเลเซีย ก็มีตัวเลขการประมูลที่สูงกว่าเดิมจนน่าตกใจ เช่นเดียวกัน
เช ยอง ซอก ประธานเทคนิคสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติ สั่งห้าม 3 ผู้เล่นชุดโอลิมปิกลอนดอนเกมส์ 2012 ประกอบด้วย ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดง "ลอนดอนเกมส์" ,รังสิญา นิสัมยสม อดีตแชมป์โลกปี 2011 และ เป็นเอก การะเกตุ อดีตแชมป์เอเชีย ลงทำการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41 "เชียงใหม่เกมส์" ระหว่างวันที่ 9-19 ธันวาคมนี้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เพราะต้องการเปิดโอกาสให้กับนักกีฬาดาวรุ่ง ได้มีเวทีแจ้งเกิดบ้าง ส่วนนักกีฬาคนอื่นก็ปล่อยให้พิสูจน์ผลงานความสามารถตามปรกติ เพื่อสิทธิ์การเข้ามาสู่แคมป์ทีมชาติต่อไปในปีหน้า

ผู้สื่อข่าว : โสพิศ ทุยเวียง / สวท. โสพิศ ทุยเวียง / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

14:05 น. ม.เนชั่น เดินหน้าปรับเครดิตซิสเต็มเชื่อมการศึกษาอาเซียน

14:05 น. ม.เนชั่น เดินหน้าปรับเครดิตซิสเต็มเชื่อมการศึกษาอาเซียน: ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเนชั่น กล่าวในการเสวนาทิศทางการพัฒนาการศึกษาไทย-ลำปางในบริบทประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในงานวัน วิชาการบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนชั่น จ.ลำปาง ว่า นอกจากมหาวิทยาลัยเนชั่นจะเดินหน้าดำเนินการใน 4 พันธกิจ มหาวิทยาลัยเนชั่นยังตระหนักถึงการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพใน ระดับสากลเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาประเทศและพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างแท้จริง

กาญจนบุรีพร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าโอทอป เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานรองรับอาเซียนและทวายโปรเจค

กาญจนบุรีพร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าโอทอป เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานรองรับอาเซียนและทวายโปรเจค:



นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งพัฒนาสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าโอทอปเพื่อให้ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อคราวประชุม ครม.สัญจร ที่กาญจนบุรี นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมโอทอป ดังนั้น จังหวัดกาญจนบุรี จึงมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าโอทอป ทุกประเภท ทั้งเสื้อผ้า ของอุปโภค บริโภค ซึ่งได้ทำการคัดสรรไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยได้เห็นกลุ่มผู้ประกอบการมีการพัฒนามากขึ้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควปีนี้ ยังได้นำสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและจำหน่ายใน งาน โดยคัดเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐาน 5 ดาวหรือสินค้าเกรดเอ เพื่อนำไปสู่มาตรฐานสากล พร้อมรองรับโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายโปรเจคและก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย


ผู้สื่อข่าว : มัทณียา มากสมบูรณ์


หน่วยงาน : สวท.กาญจนบุรี


ที่มาของข่าว : ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี

อินโดนีเซียตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตของอาเซียน

อินโดนีเซียตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตของอาเซียน:



นายฮัตตา ราจาซา รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่กล่าวว่า อินโดนีเซียวางเป้าหมายเป็นฐานการผลิตให้แก่บรรดาผู้ผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน เนื่องจากอินโดนีเซียมีสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาผู้ผลิตสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างคำกล่าวของนายราจาซาที่กล่าวด้วยว่า เป้าหมายของอินโดนีเซียสอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังมองไปถึงตลาดที่อยู่นอกเหนืออาเซียนด้วย

ผู้สื่อข่าว : รักษ์ธานินทร์ ทองประเสริฐ / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :

มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012

มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012:




การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสุดท้าย ที่สนามบูกิต จาลีล เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย "เจ้าถิ่น" มาเลเซีย แชมป์เก่า ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะอันดับ 2 ของสาย ไปเจอกับ ทีมชาติไทย แชมป์เก่า 3 สมัย อันดับ 1 สายเอ. ส่วนอีกคู่ ที่สนามชาห์ อลัม สิงคโปร์ พลิกชนะ ลาว 4-3 รวม 3 นัด สิงคโปร์ เป็นที่ 1 ของสาย พบกับ ฟิลิปปินส์ อันดับ 2 ของสายเอ. ซึ่งรอบรองชนะเลิศ นัดแรก จะแข่งขันระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคมนี้ จากนั้นนัด 2 วันที่ 12-13 ธันวาคม


ผู้สื่อข่าว : โสพิศ ทุยเวียง / สวท. โสพิศ ทุยเวียง / สวท.


หน่วยงาน : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มาของข่าว :