อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศแห่งเวียดนาม ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการอาเซียนต่อจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณแล้ววันนี้ผ่านการส่งมอบตำแหน่งต่อนายเลอ เลือง มินห์ (Le Luong Min) ณ สำนักเลขาธิการอาเซียน จาการ์ตา
“ถึงแม้ว่าความท้าทายจะมีมากมายนัก แต่ผมเชื่อว่า อาเซียนจะประสบชัยชนะได้ สำนักงานเลขาธิการอาเซียนจะยังคงมีบทบาทเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนและประสานงานให้รัฐภาคี สามารถขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ นโยบายทั้งสามเสาหลักของเราในด้านการเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรมจะได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก
ประเด็นหลักๆ ที่เราให้ความสำคัญอันดับต้นๆ คือการพัฒนาความร่วมมือทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค งานของเลขาธิการอาเซียนจะมุ่งเป้าไปตามทิศทางนี้” สุนทรพจน์ครั้งแรกของเลขาธิการอาเซียนคนใหม่ นายเลอ เลือง มินห์ (Le Luong Min)
เลอ เลือง มินห์ เลขาธิการอาเซียน (Le Luong Minh) ภาพจากสำนักเลขาธิการอาเซียน
“5 ปีต่อจากนี้ จะเป็นห้วงเวลาแห่งความสำคัญและน่าตื่นเต้นยิ่งนัก เราสามารถส่งผ่านพันธสัญญาและเป้าหมายของเราออกไปได้ ผมกำลังร่วมเดินทางกับพวกคุณ ผมกำลังเฝ้าติดตามด้วยความสนใจมากกว่ามองแต่ภาพองค์กรเท่านั้น“พิธีการส่งมอบตำแหน่งดังกล่าวมีรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งอินโดนีเซีย ดร.มาร์ตี นาตาเลกาว่า และผู้ที่กำลังจะเป็นอดีตเลขาธิการอาเซียน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณเข้าร่วมด้วย
อดีตเลขาธิการอาเซียน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กล่าวแสดงความยินดีกับนายเลอ เลือง มินห์
“ผมหวังว่าคุณจะพบช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่ดีที่สุดนี้ ซึ่งอาจจะท้าทายมากกว่าที่ผมเคยประสบมา อาทิ การที่เหล่ามหาอำนาจเข้ามาสานประโยชน์ในภูมิภาคของเรา และหวังว่าสำนักเลขาธิการอาเซียนจะช่วยสนับสนุนและยกระดับให้อาเซียนบรรลุเป้าที่ยิ่งใหญ่ได้ รวมทั้งทำให้ประชาชนของเรารู้จักกันเองมากขึ้น”
- ปี 2004-2011 นายมินห์ เคยเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ
- เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญและมีอำนาจเต็ม (Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary) จากเดือนมกราคม 2004 ถึงเดือนสิงหาคม 2007
- เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและเอกอัครราชทูตวิสามัญและมีอำนาจเต็มจากเดือนสิงหาคม 2007 ถึงเดือนธันวาคม 2008
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศและเอกอัครราชทูตวิสามัญและมีอำนาจเต็มจากเดือนธันวาคม 2008 ถึงเดือนมิถุนายน 2011
การขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนน่าสนใจและเป็นที่จับตามากขึ้นแน่นอน เพราะอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอาเซียนจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน และประเด็นทะเลจีนใต้ที่มีความขัดแย้งกับจีนนั้น เวียดนามในฐานะตัวตั้งตัวตีสำหรับการแสดงท่าทีต่อต้านบทบาทจีนในประเด็นดังกล่าว จะปฏิบัติตัวอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และอำนาจจากการเป็นเลขาธิการอาเซียนจะสามารถขับเคลื่อนความขัดแย้งให้กลายเป็นความร่วมมือได้อย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป
สำนักงานเลขาธิการอาเซียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น