หอการค้าจังหวัดระนอง แนะธุรกิจเอกชน ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

หอการค้าจังหวัดระนอง แนะธุรกิจเอกชน ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน:

นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ภาคธุรกิจเอกชนในจังหวัดระนองส่วนใหญ่ จะเป็นธุรกิจแบบผูกขาดอยู่มาก ซึ่งต่อไปจะต้องมีการพัฒนาตัวเอง มองโลกให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะปรับตัวในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวถึงธุรกิจการประมงของจังหวัดระนองว่า ในปัจจุบัน อาหารทะเลของจังหวัดระนองเป็นที่ยอมรับของประเทศอาเซียน และยุโรป เนื่องจากอาหารทะเลฝั่งอันดามัน ถือว่ามีคุณภาพสูง ทั้งยังได้รับใบรับประกัน ทำให้ต่างประเทศมีความเชื่อถือในอาหารทะเลของฝั่งอันดามัน ซึ่งในขณะนี้ทางประมง ได้มีการสัมปทาน กับประเทศพม่า เพื่อทำการติดอุปกรณ์ GPS กับเรือประมง เพื่อที่จะระบุแหล่งที่มาของอาหารทะเล ซึ่งข้อมูลต่างๆจะกลับมายังจังหวัดระนอง เพื่อเป็นการแข่งขันได้ในระดับโลก ทั้งนี้ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวถึงสินค้าทางการเกษตรว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีความเข้าใจดีในการที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่ติดปัญหาด้านกฏหมาย ซึ่งยังไม่มีการแก้ไข เช่น การนำเข้าไม้จากประเทศพม่า ซึ่งทางพม่ามีกฏหมายในการตัดไม้ และปลูกทดแทน ทำให้ไม้มีราคาถูก แต่การที่ไทยจะนำเข้าไม้จากพม่าทำได้ยากเพราะจะต้องระบุแหล่งที่มาให้ได้ จึงทำให้ปัจจุบันประเทศไทยยังมีการลักลอบตัดไม้อยู่ ซึ่งถ้ากฏหมายในส่วนนี้ได้รับการแก้ไข ก็จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์อีกมาก ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวอีกว่า จังหวัดระนองถือว่า เป็นพื้นที่ที่มีพรหมแดนติดกับประเทศพม่า ที่มีที่ตั้งเด่นที่สุดในประเทศเนื่องจากชายแดนที่ติดส่วนใหญ่จะเป็นทางทะเลสามารถควบคุมการนำเข้าสินค้าได้ง่าย และไม่มีชนกลุ่มน้อยบริเวณชายแดนด้วย จึงอยากให้ทางรัฐบาลเห็นความสำคํญของจังหวัดระนอง พัฒนาศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือ หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านอาเซียนโดยตรง

ผู้สื่อข่าว : นพพร พันละม้าย หน่วยงาน : สวท.ระนอง ที่มาของข่าว :