เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2555 คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการด้านสตรี ร่วมกับ มูลนิธิฟรีดริชเนามัน (ประเทศไทย) ได้จัดสัมมนาวิชาการ “เดินหน้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ปี 2558 การเตรียมความพร้อมและความร่วมมือของผู้หญิงอาเซียน” ณ อาคารรัฐสภา 2 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายสำคัญที่จะส่งผลต่อสตรีของอาเซียน โดยผู้นำสตรีและนักการเมืองสตรีในภูมิภาคอาเซียน และนำไปสู่การกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการพัฒนาศักยภาพ สถานภาพ และบทบาทสตรีไทย
จุดเด่นสำคัญของการสัมมนาครั้งนี้ คือการเปิดเวทีอภิปรายเรื่อง ปัญหาและโอกาสความพร้อมของสตรีสู่ประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2558 โดยมีผู้ร่วมอภิปรายคือ
- ดร.นลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- Ms.Maria Isabella Beng Climaco รองประธานรัฐสภาฟิลิปปินส์
- Ms. Nan Wah Nu สส.พรรคประชาธิปัตย์พม่า
- Mrs. Jaslyn Go สส.พรรคประชาธิปัตย์ สิงคโปร์
- Mr. Chia Ting Ting หัวหน้ากลุ่มเยาวชนสตรี พรรคเกรากาน รักยัต มาเลเซีย
- Mr. Kem Sokha หัวหน้าพรรคสิทธิมนุษยชน กัมพูชา
- Ms. Le Mai Huong ผู้แทนสถานทูตเวียดนาม
Mrs. Jaslyn Go จากสิงคโปร์ ระบุว่า การส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงและชายยังคงจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รัฐธรรมนูญของสิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียม เช่น การขจัดการกีดกันทางเพศ แต่สิงคโปร์ยังขาดผู้นำที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะในวงการการเมือง ขณะที่ภาคธุรกิจมีผู้นำสตรีเป็นจำนวนมาก
ด้าน Mr. Kem Sokha และ Ms. Nan Wah Nu ผู้แทนจากกัมพูชาและพม่า มีความเห็นตรงกันว่า การที่ผู้หญิงไม่มีบทบาทในสังคมเพราะขาดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้หญิงด้วยกันโดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนว่ามีผลต่อตนเองอย่างไร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ชายจะต้องทำงานร่วมกับองค์กรผู้หญิงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความรู้แก่ผู้หญิงอย่างทั่วถึง
ส่วน Mr. Chia Ting Ting จากมาเลเซีย ยอมรับว่า ผู้หญิงในมาเลเซียถูกมองเป็นพลเมืองชั้นสอง แต่จริง ๆ แล้ว เรามีผู้นำสตรีในหลายประเทศ เช่น ประเทศไทย อินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากผู้ที่มีความพร้อมและมีการศึกษาสูง ดังนั้น ทำอย่างไรจึงจะส่งเสริมให้สตรีในชนบทมีการศึกษาและมีโอกาสในสังคมมากขึ้น
ข้อมูลจาก เว็บไซต์รัฐบาลไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น