วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

กรมการค้าระหว่างประเทศติวเข้มผู้ประกอบการภูเก็ตการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขยายตลาดการค้าสู่ AEC

กรมการค้าระหว่างประเทศติวเข้มผู้ประกอบการภูเก็ตการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขยายตลาดการค้าสู่ AEC:



วันนี้ (13 มี.ค. 56) ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ นางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานเปิดการสัมมนา การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองเพื่อขยายโอกาสทางการค้าในตลาด AEC โดยมีนายประคอง รักษ์วงศ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน เข้าร่วม นางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี กล่าวว่า การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองคือ การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง หรือ self-Certification เป็นการอนุญาตให้ผู้ทำการค้าหรือผู้ส่งออกที่ได้รับความไว้วางใจที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเอง ในใบกำกับสินค้า (Invoice) หรือในเอกสารทางการค้าอื่น ๆ ในการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในกลุ่มอาเซียนแทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ Form D ที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน Self-Certification เป็นผลมาจากการที่อาเซียนได้กำหนดเป้าหมายในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 โดยจะเป้นตลาดร่วมตลาดเดียว ซึ่งมีฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายการบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือและเงินทุนระหว่างกันอย่างเสรีมากขึ้น การนำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออกหรือ Self-Certification มาใช้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและลดขึ้นตอนการจัดทำเอกสารการส่งออกของผู้ประกอบการด้วย ปัจจุบันประเทศที่นำระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองมาใช้มี 4 ประเทศ ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ เริ่มใช้เป็นโครงการนำร่องระหว่างกันแล้ว ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2553

สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่ 4 ที่เข้าร่วมโครงการนำร่องโดยให้สัตยาบันกับ 3 ประเทศแรกที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อวันืที่ 28 ตุลาคม 2554 ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่จะได้รับสิทธิรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศก่อน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ส่งออกได้รับการขึ้นทะเบียนไปแล้วจำนวนหนึ่ง สำหรับประเทศที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ เช่น เวียดนาม ลาวและกัมพูชา การใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรระหว่างกันยังคงใช้หนังสือรับรอง (Form D) เช่นที่ใช้อยุ่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามอาเซียนตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่กำหนดจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ จะสามารถนำระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าว : ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ


หน่วยงาน : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต


ที่มาของข่าว :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น