สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 จัดการประชุมเสวนาสมัชชานักเรียนภาคเหนือ สู่ผู้นำอาเซียน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 จัดการประชุมเสวนาสมัชชานักเรียนภาคเหนือ สู่ผู้นำอาเซียน:

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 จัดการประชุมเสวนาสมัชชานักเรียนภาคเหนือ สู่ผู้นำอาเซียน เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักเรียนและครูในกลุ่มประเทศอาเซียน นายชุมพล รัตน์เลิศลบ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 มอบหมายให้สมัชชานักเรียนเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเสวนาสมัชชานักเรียนภาคเหนือ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือครั้งที่ 62 ในหัวข้อ การประชุมเสวนาสมัชชานักเรียนภาคเหนือ สู่ผู้นำอาเซียน ณ อาคาร 100 ปี โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธาน เพื่อจัดเวทีสมัชชาให้นักเรียนเชียงใหม่ได้ฝึกกระบวนการคิด วิเคราะห์ เปิดโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักเรียนและครูในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อยกระดับผลงานนักเรียนด้านความเป็นผู้นำ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ความมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม และประเทศชาติ มีจิตสำนักสาธารณะ ร่วมกันสร้างความดี สร้างเพื่อการศึกษาความเป็นพลเมือง เพื่อให้ครูและนักเรียนร่วมกันพัฒนาองค์กรสมัชชานักเรียน ในระดับโรงเรียน ระดับจังหวัด และระดับภาค เผยแพร่แนวคิดกระบวนการสร้างความดีไปสู่สมัชชานักเรียนไทย ให้มีความเข้มแข็งเข้าสู่การแข็งขันในระดับภูมิภาคและในระดับสากล โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาจาก 53 เขตพื้นที่การศึกษา ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย สมัชชาสภานักเรียน ครู และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 305 คน สมัชชานักเรียนใหม่จาก 21 โรงเรียน 320 คน และคณะผู้บริหาร ครูในจังหวัดเชียงใหม่ 100 คน รวมทั้งสิ้น 725 คน นอกจากนี้ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือครั้งที่ 62 ยังแบ่งสนามแข่งขันออกเป็น 13 แห่ง เช่น โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม แข่งขัน OBEC AWARDS มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แข่งขันเครื่องร่อนพับกระดาษ โรงเรียนศรีสังวาลเชียงใหม่ แข่งขันเฉพาะความพิการ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี แข่งขันดนตรี งานประดิษฐ์ สุขศึกษา พลศึกษา และนักบินน้อย ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 21 -23 พฤศจิกายน 2555

ผู้สื่อข่าว : เชียงใหม่ (สวท.) / กนกรัตน์ ปัญญา เชียงใหม่ (สวท.) / กนกรัตน์ ปัญญา หน่วยงาน : สำนักข่าว ที่มาของข่าว :