30 สุดยอด “ผู้ควบคุมทุน” ในเอเชียอาคเนย์

30 สุดยอด “ผู้ควบคุมทุน” ในเอเชียอาคเนย์:
ทำความเข้าใจพลวัตของทุนที่ส่งผลต่อความเป็นไปสังคมและการเมืองในเอเชียอาคเนย์ ผ่านข้อมูลของ 30 สุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเชียอาคเนย์ที่รายงานโดย The Wall Street Journal
พวกเขาเหล่านี้มีภูมิหลังที่หลากหลาย ทั้งสร้างกิจการด้วยมือตนเอง สืบทอดกิจการจากคนรุ่นก่อน เป็นมืออาชีพในวิสาหกิจแปรรูปของภาครัฐ รูปแบบธุรกิจก็แตกต่างหลากหลาย เริ่มจากการทำการเกษตร การทำเหมืองแร่ การทำป่าไม้ ไล่ไปจนถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

Aburizal Bakrie Photo by A. Irianto from Wikipedia

1. Aburizal Bakrie เจ้าพ่อธุรกิจที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองในอินโดนีเซีย เกิด 15 พฤศจิกายน 1946 (อายุ 66 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 890 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : กลุ่มธุรกิจ Bakrie (อุตสาหกรรมการเกษตร, อสังหาริมทรัพย์, ค้าส่ง, ขนส่งทางเรือ, ธนาคาร, ประกันภัย, สื่อ, อุตสาหกรรมการผลิต, การก่อสร้าง และ เหมืองแร่)
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ช่วงปี 2004 – 2009 เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีผู้ช่วยว่าการสวัสดิการประชาชน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค Golkar ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีโอกาสไม่น้อยในการเลือกตั้งครั้งถัดไป (ปี 2014)

Putera Sampoerna Photo from Sampoernafoundation.org

2. Putera Sampoerna นักธุรกิจเชื้อสายจีนในอินโดนีเซีย เกิดวันที่ 13 ตุลาคม 1947 (อายุ 65 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ มากกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : Sampoerna กิจการยาสูบ ภายหลังเขาขายกิจการดังกล่าวให้กับบริษัทฟิลิป มอร์ริส อินเทอร์เนชันแนล (ผู้ผลิตมาร์โบโร) จากนั้นจึงก่อตั้งบริษัทจัดการลงทุน (investment company) ชื่อ Sampoerna Strategic โดยมีผู้บริหารหลักเป็นบุตรชายของเขา Michael Sampoerna ปัจจุบัน Sampoerna Strategic ได้ทำการลงทุนในกิจการโทรคมนาคม, การเกษตร (สวนปาล์มน้ำมัน), ป่าไม้ และอุตสาหกรรมกิจการสถาบันการเงินขนาดเล็ก (Microfinance industry)
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Anthony Salim from Wikipedia by Richter Frank-Jurgen

 3. Anthony Salim เจ้าของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย เกิดปี 1949 (อายุ 63 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : กลุ่มธุรกิจ Salim ดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมอาหาร, ผู้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย, ผู้ผลิตแป้งที่ใช้ปรุงอาหาร, เจ้าของกิจการสวนปาล์มน้ำมัน, กิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่นโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ และอาคารในย่านธุรกิจ นอกจากนี้ยังดำเนินกิจการการก่อสร้างในหลายพื้นที่ของอินเดียเช่น เบงกอลตะวันตก และเมืองนานาชาติกัลกัตตาตะวันตก ในเขตเบงกอลตะวันตกเป็นต้น
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Photo by The Straits Times © Singapore Press Holdings Ltd.                      from Forbes

4. Eka Tjipta Widjaja เจ้าของกลุ่มธุรกิจเชื้อสายจีน สร้างฐานที่มั่นของเขาจากกิจการธนาคาร เกิดวันที่ 3 ตุลาคม 1923 (อายุ 89 ปี)

• ทรัพย์สินธุรกิจ : 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : Sinar Mas Group ดำเนินกิจการด้านกระดาษและเยื่อกระดาษ อุตสาหกรรมกาเกษตร, อสังหาริมทรัพย์และกิจการการเงิน กิจการโทรคมนาคม และเหมืองแร่ เขายังมีกิจการธนาคารซึ่งถือเป็นเรือธงของกลุ่มคือ Bank International Indonesia หรือ BII
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

James Riady, Photo from World Economic Forum; Ms. Sikarin Thanachaiary

5. James Riady ทายาทเจ้าสัวผู้สืบทอดกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อีกแห่งในอินโดนีเซีย Mochtar Riady วัย 82 ปี ตัวของ James Riady เกิดปี 1957 อายุ 55 ปี ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งรองประธานกลุ่มบริษัท Lippo

• ทรัพย์สินธุรกิจ : 650 ล้านเหรียญสหรัฐ (ของบิดาซึ่งแชร์ร่วมกับตระกูลและบุตรชายสองคนคือ James และ Stephen)
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : Lippo Group ดำเนินกิจการหลากหลาย ทั้งด้าน อสังหาริมทรัพย์, กิจการสุขภาพ, กิจการทางการเงิน, สื่อและค้าปลีก
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Ananda Krishnan, Photo from Forbes by Munshi Ahmed

6. Ananda Krishnan เจ้าของกิจการโทรคมนาคมขนาดยักษ์ในมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย วัย 74 ปี เกิดวันที่ 1 เมษายน 1938 (อายุ 74 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2011)
• การศึกษา : รัฐศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ในออสเตรเลีย และ MBA จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
• ฐานที่มั่นธุรกิจ : ถือหุ้นราว 70% ใน Maxis Communications กิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งมีฐานผู้ใช้ 10 ล้านคน และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 40% รวมทั้งยังถือหุ้นหลักใน MEASAT Broadcast Network Systems กิจการด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งมีดาวเทียมการสื่อสารสามดวงอยู่ครอบครอง นอกจากนี้เขาก็ยังถือหุ้นใน Aircel, Axis และ SriLanka Telecom รวมทั้งมีหุ้นอยู่ใน TVB และ ชอว์บราเดอร์ของฮ่องกง
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Robert Kuok Photo from Forbes

7. Robert Kuok มหาเศรษฐีเชื้อสายจีนชาวมาเลเซีย สร้างฐานะตนเองขึ้นมาจากอุตสาหกรรมน้ำตาล เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1923 (อายุ 89 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 17.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : เจ้าของกิจการน้ำตาล อ้อย อาหารสัตว์ น้ำมัน เหมืองแร่ การเงิน โรงแรม (แชงกรี-ล่า) อสังหาริมทรัพย์ ค้าส่ง ขนส่ง และการพิมพ์ ที่มาของความมั่งคั่งของเขาโดยหลักแล้วมาจาก Wilmar International ซึ่งเป็นบริษัทผลิตปาล์มน้ำมัน
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Tony Fernandes Photo from Wikipedia by Lastsham

8. Tony Fernandes เจ้าพ่อสายการบินราคาประหยัด Air Asia นักธุรกิจเชื้อสายอินเดียชาวมาเลเซีย เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 1964 (อายุ 48 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 470 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : สายการบิน Air Asia, เขาเป็นผู้เสนอแนวทางข้อตกลงการเปิดน่านฟ้าเสรีระหว่างมาเลเซีย กับ ไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ร่วมกัน ในสมัยรัฐบาลมหาเธร์ ในปี 2003 ทำให้ประเทศเหล่านี้ให้สิทธิการลงจอดในหลายพื้นที่กับ Air Asia นอกจากนี้ภายหลังเขายังพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันคือกลุ่ม Tune ซึ่งเป็นกิจการโรงแรมราคาประหยัด สำหรับผู้เดินทางกับสายการบิน Air Asia
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Lim Kok Thay, Photo from Casinosingapore.sg

9. Lim Kok Thay ทายาทเจ้าสัว Lim Goh Tong ที่ล่วงลับไปแล้วในวัย 89 ปี ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Genting Highlands ตัว Lim Kok Thay เกิดในปี 1952 อายุ 60 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 605 ล้านเหรียญสหรัฐ (Lim Goh Tong บิดาของเขามีทรัพย์สินสุทธิในขณะยังมีชีวิตอยู่ที่ 4.2 พันล้านสหรัฐ)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Genting Highlands, Genting Group และ Star Cruises ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว ที่พักตากอากาศ และคาสิโน นอกจากนี้ Genting Group ยังทำการลงทุนในกิจการปาล์มน้ำมัน โรงพยาบาล น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
• การศึกษา : ปริญาตรีวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยลอนดอน และประกาศนียบัตรการบริหารธุรกิจ จากฮาร์วาร์ด
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Nazir Razak Photo by Goh Seng Chong from Bloomberg

10. Nazir Rasak ผู้บริหารหนุ่มของธนาคาร CIMB Group ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ทางการเงินในมาเลเซีย เขาเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรี Tun Abdul Razak และเป็นน้องชายของ Najib Razak ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน เขาเกิดในปี 1966 ปัจจุบันอายุ 46 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 165 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : CEO ของ CIMB
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิตด้นเศรษฐศาสตร์และการเมืองจากมหาวิทยาลัยบริสตอลในประเทศอังกฤษ และปรัชญามหาบัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์การพัฒนาจากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : เป็นน้องชายของ Najib Razak ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน

Dato Shamsul Azhar Abbas, Photo from Petronas

11. Shamsul Azhar Abbas ประธานและซีอีโอของเปโตรนาสบรรษัทกิจการด้านพลังงานอันดับหนึ่งของมาเลเซีย เกิดในปี 1952 ปัจจุบันอายุ 60 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ประธานและซีอีโอของเปโตรนาส
• การศึกษา: รัฐศาสตร์บัณฑิตจาก Science University of Malaysia และ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านการจัดการพลังงานจาก มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และประกาศนียบัตรทางเทคนิคด้านเศรษฐศาสตร์ปิโตรเลียมจาก Institute Franaise du Petrole (IFP)
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Tay Za Photo from Forbes by Munshi Ahmed

12. Tay Za เจ้าพ่อธุรกิจผู้สร้างตัวจากการค้าไม้ในพม่า เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม 1964 (อายุ 48 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ Htoo Group และ Air Bagan (สายการบินพุกาม) กิจการของเขาครอบคลุมธุรกิจการค้าไม้สัก การก่อสร้าง การท่องเที่ยว โทรศัพท์เคลื่อนที่ และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ใกล้ชิดกับผู้นำทางทหารของพม่ารุ่นก่อน

Manuel Velez Pangilinan, Photo from Wikipedia

13. Manuel V. Pangilinan เจ้าของบริษัทให้บริการโทรศัพท์ทางไกล เกิดวันที่ 14 กรกฎาคม 1946 (อายุ 66 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 35 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Philippine Long Distance Telephone Company (PLDT), Associated Broadcasting Company (TV5),Metro Pacific Tollways Corporation, Medical Doctors, Inc., Metro Pacific Investments Corporation, Landco Pacific Corporation, Pilipino Telephone Corporation, Smart Communications, Inc. and Manila Metro Rail Transit System.
• การศึกษา : ศิลปศาสตร์บัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์จาก Ateneo de Manila University และ MBA จาก Wharton School of the University of Pennsylvania
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Ramon S. Ang, Photo from Sanmiguel

14. Ramon S. Ang เจ้าของ San Miguel Corporation (SMC) กิจการเครื่องดื่ม อาหาร และแพ็คเกจจิ้ง ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ เกิดปี 1954 (อายุ 58 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : มูลค่าหุ้นของเขาจำนวน 11% ใน SMC มีมูลค่าราว 695 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : San Miguel Corporation, Cyber Bay Corporation และ Petron Corporation
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านวิศวกรรมเครื่องกลจาก Far Eastern University ในฟิลิปปินส์
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Jaime Augusto Zobel de Ayala, Photo from Wikipedia by World Economic Forum

15. Jaime Augusto Zobel de Ayala เจ้าของ Ayala Corporation ซึ่งเป็น เครือธุรกิจเก่าแก่ขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์ เกิดวันที่ 2 ธันวาคม 1932 (อายุ 80 ปี)

• ทรัพย์สินสุทธิ : 2.6 พันล้านเหรียญ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Ayala Corporation กิจการของกลุ่มธุรกิจนี้ครอบคลุมถึง ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร โทรคมนาคม น้ำประปา พลังงานทางเลือก อิเล็กโทรนิกส์ ไอที และการให้บริการด้าน business process outsourcing กลุ่มธุรกิจ Ayala ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยฟิลิปปินส์ยังเป็นอาณานิคม (ปี 1872) ถือเป็นกิจการที่เก่าแก่ที่สุดและมีมูลค่ามากที่สุดในฟิลิปปินส์
• การศึกษา : ศิลปศาสตร์บัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ MBA จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
• ความเกี่ยวข้องในทางการเมือง : ไม่มี

Lance Gokongwei Photo from Flightglobal

16. Lance Gokongwei บุตรชายของเจ้าสัว John Gokongwei เจ้าของเครือธุรกิจขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์ เกิดปี 1967 ปัจจุบันอายุ 45 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 3.2 พันล้านเหรียญ แชร์ร่วมกับครอบครัวและบิดาของเขา (บิดาของเขาเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 1926 ปัจจุบันอายุ 86 ปี)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ ; JG Summit Holdings ดำเนินกิจการหลากหลายเช่น สายการบิน (Cebu Pacific Air), โทรคมนาคม (Digital Telecommunications Phillipines) อสังหาริมทรัพย์ และมหาวิทยาลัย รวมถึงห้างสรรพสินค้า
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านการเงินและวิทยาศาสตร์ประยุกต์จาก University of Pennsylvania, Wharton School USA. และได้รับประกาศนียบัตรจากโครงการบริหารจัดการและเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Kuok Khoon Hong, Photo by courtesy of SPH – The Business Times from Forbes

17. Kuok Khoon Hong ราชันย์น้ำมันปาล์มของสิงคโปร์เกิดในปี 1954 ปัจจุบันอายุ 62 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Wilmar International กิจการน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Sunny George Verghese, Photo from Human Capital Leadership Institute

18. Sunny George Verghese เจ้าของธุรกิจสินค้าการเกษตรในสิงคโปร์ เกิดปี 1964 ปัจจุบันอายุ 52 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 210 ล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Olam International กิจการค้าส่งสินค้าการเกษตร ผลิตปุ๋ย โรงงานฟอกน้ำตาลในไนีเรีย และค้าไม้สักในคองโก นอกจากนี้ก็ยังมีกิจการด้านเครื่องปรุงอาหารในลอนดอน
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านการเกษตร จาก Banaras Hindu University (Varanasi) มหาบัณฑิตด้านการบริหารจาก Grenoble University และประกาศนียบัตรจาก Sloan Master in Leadership & Strategy from London Business School
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Goh Choon Phong Photo from afp.com by Roslan Rahman

19. Goh Choon Phong ซีอีโอของสายการบินสิงคโปร์ เกิดในปี 1964 ปัจจุบันอายุ 49 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ (ประมาณการเงินเดือน ผลตอบแทน และโบนัส อยู่ในอัตรา 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ซีอีโอของสายการบินสิงคโปร์ (ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2010) ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งฝ่ายปฏิบัติการของสายการบินนี้ในประเทศจีนและกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียมาก่อน
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านวิทยาการและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ บัณฑิตด้านศาสตร์การรับรู้และศาสตร์การบริหารจัดการ และวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก MIT
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Chua Sock Koong, OPTUS, ST FILE PHOTO, BRIDGE ALLIANCE, SINGTEL

20. Chua Sock Koong ซีอีโอของกลุ่มกิจการ SingTel เกิดในปี 1956 ปัจจุบันอายุ 55 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ (ประมาณการเงินเดือน ผลตอบแทน และโบนัส อยู่ในอัตรา 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ซีอีโอของกลุ่มกิจการ SingTel ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งรองซีอีโอ และหัวหน้าฝ่ายบริหารด้านการเงินของกลุ่ม
• การศึกษา : บัณฑิตด้านการบัญชี (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ และเป็นผู้สอบบัญชีและนักวิเคราะห์ทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Liew Mun Leong, Photo from Quill Capita Management Sdn Bhd

21. Liew Mun Leong ประธานบรรษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์และเอเชียอาคเนย์

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ (ประมาณการเงินเดือน ผลตอบแทน และโบนัส อยู่ในอัตรา 5.4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ประธานกลุ่ม CapitaLand Limited (ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2003)
• การศึกษา : วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตด้านโยธา จากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Choo Chiau Beng, Photo from giving.nus.edu.sg

22. Choo Chiau Beng ประธานกลุ่มธุรกิจ Keppel เกิดปี 1952 อายุ 64 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ ; ไม่ทราบ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ประธานกลุ่มธุรกิจ Keppel
• การศึกษา : วิทยาศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้รับทุนศึกษาต่อ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต ด้านสถาปัตยกรรมทางน้ำจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้รับประกาศนียบัตรด้านการบริหารจัดการการพัฒนาจาก HBS และการบริหารจัดการจาก Wharton School
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

Piyush Gupta, Photo by Munshi Ahmed/Bloomberg

23. Piyush Gupta ซีอีโอของ DBS เกิดปี 1954 อายุ 52 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ (ประมาณการเงินเดือน ผลตอบแทน และโบนัส อยู่ในอัตรา 8 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ธนาคาร DBS, กลุ่มธุรกิจ DBS
• การศึกษา : ศิลปศาสตร์บัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์ จาก St Stephen’s College Delhi University และ MBA จาก The Indian Institute of Management in Ahmedabad
• ความเกี่ยวข้องทางการเมือง : ไม่มี

ธนินท์ เจียรวนนท์ ภาพจาก Positioning Magazine

24. ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มบริษัท CP เกิดปี 1938 ปัจจุบันอายุ 74 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ราว 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : กลุ่มกิจการ CP, CP ALL, เจริญโภคภัณฑ์, ทรูคอร์ปอเรชัน กิจการหลายอย่างในจีน อาทิเช่น การขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ ประกันภัย ยานยนตร์ ปศุสัตว์ การเกษตร ฯลฯ

เจริญ สิริวัฒนภักดี ภาพจากมติชนออนไลน์

25. เจริญ ศิริวัฒนภักดี เกิดปี 1950 อายุ 68 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ราว 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ThaiBev กลุ่มกิจการเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

ตระกูลจิราธิวัฒน์ Photo from Forbes

26. ตระกูลจิราธิวัฒน์

• ทรัพย์สินสุทธิ : ราว 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ห้างสรรพสินค้าเซนทรัล, Central pattana, กิจการค้าปลีก ฯลฯ

จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ภาพจาก Toptenthailand

27. จำนงค์ ภิรมย์ภักดี และตระกูลภิรมย์ภักดี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ราว 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : เบียร์สิงห์

ชาตรี โสภณพนิช ภาพจากไทยรัฐ

28. ชาตรี โสภณพนิช และครอบครัว เกิดปี 1934 ปัจจุบันอายุ 78 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 440 ล้านเหรียญสหรัฐ (ในปี 2005 เทียบกับธนินทร์ เจียรวนนท์ในปีเดียวกันที่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : ธนาคารกรุงเทพ

Doan Nguyen Duc, photo from Forbes

29. Doan Nguyen Duc เจ้าของทีมฟุตบอลชั้นนำในเวียดนาม เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ เกิดปี 1962 ปัจจุบันอายุ 50 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : 11,000 ล้านดอง (ราว 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ : Hoang anh Gia Lai

Steven Law, Photo from http://www2.irrawaddy.org by The New Light of Myanmar

30. Steven Law นักธุรกิจดาวรุ่งในพม่า เกิดปี 1958 อายุ 54 ปี

• ทรัพย์สินสุทธิ : ไม่ทราบ
• ฐานที่มั่นทางธุรกิจ Asia : World Company ส่วนใหญ่ธุรกิจของเขาเชื่อมโยงกับการลงทุนของจีนในพม่า โครงการ Myitsone เพียงโครงการเดียว มีมูลค่าราว 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ